Saturday, September 27, 2008

ได้ฤกษ์ทำโปรเจคหมื่นล้าน

กลับไปต่อรองราคากับผู้รับเหมา กว่าจะได้ตามงบ ทำเอาแทบแย่ เราต้องหั่นสเปคแทบแย่ (กรูบอกตั้งแต่ตอนทำแบบแล้วว่า อย่าใส่มาเยอะ เดี๋ยวจะเสียอารมณ์กันได้ ก็ไม่เชื่อ เฮ้อ...) สาธุ... ขอให้ขายดิบขายดีมีกำไร อิชั้นจะได้ลาออกไปทำจัดสรรจริงๆ จังๆ ซะที ไม่ต้องมาปวดหัว(ใจ)อยู่อย่างทุกวันนี้ แต่ที่แน่ๆ ต่อไปก็เตรียมตัวเหนื่อยได้ เพราะต้องลงมาหากใหญ่ทุกเดือน เฮ้อ... แค่คิดก็เหนื่อยล่ะ...

Saturday, September 20, 2008

ชีวิตกรรมกร

เนื่องจากเป็นการเทคอนกรีตฐากรากครั้งแรกของโครงการฯ เลยต้องมีการเตรียมการกันยิ่งใหญ่ ตา ป.ส. ให้ฤทธา Present วิธีการเทซะหลายรอบ และก่อนจะเทจริง ก็มีการตรวจเข้มซะจนกว่าจะได้เริ่มเทก็สายจากกำหนดการเดิมไปถึง ๒ ชม. ชนิดฤทธาประชดว่า ทำเหมือนเขาไม่เคยเท Mat Foundation มาก่อนงั้นแหละ เรานึกในใจงานนี้ยาวแน่ และก็เป็นไปตามคาด ๒ ทุ่มก็ยังไม่เสร็จ พอดีหงษ์โทรมาตามเราให้ไปจัดรายการเสาร์หน้า เลยตกใจใหญ่ เพราะเราบอกว่า คงเที่ยงคืนมั๊งถึงจะได้กลับบ้าน แต่โชคชะตาเราก็ไม่เลวร้ายมากนัก เพราะฝั่งโรงแรมเรารอดตัวไป เพราะไม่มีแขกมาพักเลย หงอยมาก ชนิดคุณ ชช. ประชดว่า ต้องไปขอบคุณลุงหมัก เพราะทำให้ฝรั่งไม่กล้ามาเที่ยวเมืองไทย คอยลุ้นใจหายใจคว่ำเฉพาะชาวบ้านตัวจริงที่อยู่ติดกับโครงการ กลัวเขาจะโทรเรียกตำรวจ เพราะยังงัยโครงการก็ต้องเทคอนกรีตต่อให้เสร็จให้ได้ แต่ถ้ามีโทรจริง งานนี้ต้องมีใครซักคนไปเป็นแพะให้คุณตำรวจแน่ แหม... ชีวิตกรรมกรมันเหนื่อยยากดีแท้หน๊อ...

Sunday, September 7, 2008

อกหัก

หลังจากที่ไม่ได้คุยกันนานมากๆ พอเราได้เมลล์ฉบับนั้นจากเกี๊ยก เราเลยโทรไปหา ไม่น่าเชื่อว่าประโยคแรกที่เกี๊ยกถามเรา คือ เรื่องสุขภาพของหมะ นิน่าล่ะ คุณนายนิลุบลถึงได้ปลื้มเฮียนักหนา แล้วเลยคุยกันไปเรื่องอื่นๆ อีกแป๊ปนึง จนเราทนไม่ไหวล่ะ ต้องถามเกี๊ยกตรงๆ ว่า เขาจะแต่งงานเหรอ เฮียถึงได้ตอบว่า ใช่ ตามด้วยการถอนหายใจเฮือกๆ บ้าที่สุด แล้วเมล์มาแบบนั้นทำไมวะ มีแฟนแล้วก็ไม่บอก ตอนเราถามแรกๆ มาทำเป็นพูดออกแนวว่า ถ้าคนที่เรารักตายไปจะรู้สึกยังงัย-ยังโน้นอย่างนี้ บ้าที่สุด โกรธนะเนี่ย...

แต่ที่เรางงสุด คือ เขาไม่เชิญเราไปงานแต่งงาน ขนาดเราพูดโต้งๆ ว่า เราสะดวกงานที่ กทม. มากกว่าที่ปัตตานี สงสัยจะมีลางสังหรณ์จับได้ว่า เราจะใส่ชุดคลุมท้องสีดำไปร่วมงานแต่งงาน ๕๕๕...