Wednesday, December 31, 2008

หมดไปอีกปี

หงให้คิดเรื่อง ๕ ชอบ กะ ๕ ไม่ชอบ ไว้อัดรายการ “ช่างคุย” เราคิดหัวแทบแตก เรื่อง ๕ ไม่ชอบ คิดได้แค่ ๓ เรื่องเอง แหม... นี่อิชั้นดูเป็นคนที่มีความพึงพอใจในชีวิตไม่น้อยนะเนี่ย สุดท้ายก็มั่วๆ ให้คุณภาสกรไปได้อีกเรื่อง

เอาเรื่อง “๕ ชอบ” ก่อน

๑) “ช่างคุย” เพราะมันทำให้เราได้กลับมาเจอเพื่อนๆ และได้เพื่อนใหม่เพิ่มขึ้น มีกิจกรรมดีๆ เพิ่มเติมในชีวิต (ไม่รู้หงฟังแล้วน้ำตาจะไหลรึป่าว ฮ่าๆๆ)

๒) “มัลดีฟส์” เพราะเป็นครั้งแรกที่เราได้ไป “พักผ่อน” จริงๆ ตอนไป “สิปาดัน” เราว่า ก็ “พัก” แล้วนะ แต่ก็ไม่เท่าวะ สงสัยว่า ถ้าได้ไป “สิปาดัน” อีก จะเลือกไม่ไปดำน้ำตอนบ่ายเหมือน นจว. ดู น่าจะมีความสุขนะ

๓) “เชียงใหม่” ไม่รู้เป็นเพราะอากาศดีด้วยรึป่าว แต่เรารู้สึกชอบเมืองนี้มากขึ้นทุกที ค่าครองชีพก็ถูก ผู้คนก็น่ารัก

๔) “๒๔” หลังจากที่ฟังใครๆ พูดถึงภาค ๑ ของซีรียส์เรื่องนี้มาชาตินึง ในที่สุดเราก็ได้ดู Day 6 ของซีรียส์เรื่องนี้ โอว... พระเจ้าจอร์จ มันมันส์มากๆ เลย พล็อตแน่นมาก ข้าน้อยขอคารวะคนเขียนบท ๓ จอก ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ละครไทยจะไปถึงตรงนี้...

และ ๕) “ปร้ารอส” ถึงปร้าจะเรื่องมากและเป็นคนจริงจังไม่มีอารมณ์ขัน บวกขี้ประชด แต่ปร้าโปรฯ มาก คำไหนคำนั่น ไม่เคยต้องให้ทวงแบบ และแบบก็ทำมาตั้งใจ มีที่มาที่ไป อธิบายได้ ไม่เคยเขี่ยๆ แบบส่งมาเลย เราถามอะไรไป ปร้าตอบเร็วมาก เคลียร์แบบให้เราชัดเจน แถมบางทียังโทรมาอธิบายอีกรอบ ถ้าเราเมลล์ไปบอกว่า เราไม่ค่อยแน่ใจที่ปร้าตอบมา แถมที่เรานับถือที่สุด คือ ปร้าช่วยตรวจแบบโครงสร้างกับแบบงานระบบด้วยว่ามันแย้งกับแบบสถาปัตยฯ รึป่าว เราไม่เคยเจอสถาปนิกแบบนี้เลยวะ โคตรจะรับผิดชอบงาน แถมยังมาตรวจไซท์ทุกเดือน แบบว่า ขอมาเองเลยอ่ะ ผิดกลับสถาปนิกที่เราเจอๆ บอกว่าให้ช่วยเข้ามาเคลียร์แบบด้วย ก็ยังตามยากตามเย็น จนสุดท้ายเราต้องตัดสินใจทำไปเองเลย ก็เพราะเป็นแบบนี้แหละ ตึกในบ้านเราถึงได้ดูแปลกๆ เพราะเล่นให้วิศวกรตัดสินใจนี่เอง เฮ้อ...

ส่วน “๔ ไม่ชอบ” มี

๑) “การเมือง” เกลียดรัฐบาล เกลียดนายกฯ เกลียดเสื้อเหลือง เมื่อไหร่ประเทศชาติถึงจะสงบวะ

๒) “โจรใต้” นี่ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว แต่ก็ยังมีทหารถือปืนอยู่ตามด่านต่างๆ ระหว่างทางหาดใหญ่-ยะลา จะกลับบ้านก็กลับไฟลท์ค่ำไม่ได้ เพราะไม่มีรถตู้วิ่งแล้ว แล้วยังจะประท้วงกันเข้าไปอีก เออ... เอากันเข้าไป แล้วยิ่งเวลามีตำรวจมารีดไถที่ไซท์นะ เราแทบอยากด่าจริงๆ ทำไมไม่ไปจับโจรใต้วะ!

๓) “ภาวะเศรษฐกิจ” ตอนแรกก็เฉยๆ นะ เพราะว่าคราวนี้เราไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงเหมือนฟองสบู่คราวที่แล้ว แต่อันนี้เราคิดเพิ่มเติมตามที่คุณภาสกรเธอสั่งมา ก็อยากให้ประเทศชาติกลับมาเศรษฐกิจดีๆ เงินสะพัดมากๆ คนไทยจะได้มีความสุขรับปีใหม่

และ ๔) “แก่ไปอีก ๑ ปี” อันนี้ทุกคนฟังแล้วขำมาก เบ้บอกว่า ตอนซีรียส์ ๒ ก็ว่าชีวิตผ่านไปเร็วแล้วนะ แต่พอซีรียส์ ๓ เนี่ย เวลาผ่านไปโค-ตะ-ระเร็วเลยจริงๆ เผลอตัวอีกที คงไปถึงดอนเมืองกันแล้วล่ะ โฮๆๆ

ส่งท้ายปีด้วยเรื่องของตัวเรา เริ่มจากเรื่องงาน ปีนี้เหนื่อยโคตรๆ กลับบ้านค่ำๆ มืดๆ เกือบทุกวัน หวังว่าปีหน้าจะดีขึ้นน๊า...

ส่วนเรื่องสุขภาพกาย จากที่เราตั้งใจว่าจะออกกำลังกายให้ได้อาทิตย์ละ ๒ วัน แต่กว่าจะได้ทำก็ปาเข้าไปช่วง ๓ เดือนสุดท้าย แถมกะพร่องกะแพร่งอีกตะหาก ปีหน้าต้องออกตัวให้ดีซะแล้ว

ตามด้วยสุขภาพการเงิน ปีนี้ไปเที่ยวเยอะมากกกกกก คงเป็นเพราะปีที่แล้วไม่ได้ไปไหนเลย หวังว่าปีหน้าจะได้เที่ยวเยอะๆ อย่างปีนี้นะ ซ๊าธุ...

เรื่องสุดท้ายเป็นเรื่องความรัก ปีนี้ถือว่าแย่มาก เพราะไม่มีแฟน แถมแอบปลื้มหนุ่มมีเมียแล้ว ยังไม่พอ กิ๊กหนีไปแต่งงานอีกตะหาก ทำไมน๊า... ไอ้คนที่เราชอบเขา เขาก็ไม่ชอบเรา โลกนี้วุ่นวายจริงหนอ... Anyway หวังว่าปีหน้าจะยังไม่ต้องไปผ่าตัด จะได้เก็บรังไข่ไว้เผื่อมีลูก คนเราต้องมีความหวัง สู้โว๊ยยยยย...

Sunday, December 21, 2008

เก็บตกเชียงใหม่


หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจซื้อของเข้าบ้าน วันเสาร์ก็ไปเที่ยวกัน เริ่มจากไปงานกุหลาบก่อน เพราะบังเอิญมาจัดงานช่วงนี้พอดี กุหลาบเยอะมาก สีแปลกๆ ก็เยอะ เลยได้ถ่ายรูปกันเพลิน เสียดายที่ซื้อกลับมาปลูกที่ กทม. ไม่ได้ เสร็จแล้วไปสวนสิริกิตต์ฯ กัน ตามด้วยการกินข้าวที่ร้านโป่งแยงฯ เป็นสูตรสำเร็จรูป แต่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะรสชาดดีไม่เปลี่ยนแปลง แล้วเรา Request ไปพราวภูฟ้า รีสอร์ท เลยต้องขับรถอ้อมไปไกล ไปถึงก็ผิดหวังเล็กน้อย เพราะรีสอร์ทเล็กนิดเดียว และที่สำคัญเสื้อยืดก็ไม่น่ารักเหมือนเวลาไปออกงานแฟร์ต่างๆ แต่เราก็ซื้อมา ๑ ตัว เราว่าพราวภูฟ้าเหมาะแก่การไปฮันนีมูน แบบว่าไม่ต้องออกจากรีสอร์ทไปไหนอีกเลย เพราะว่าอยู่ไกลออกมาจากแม่ริมมาก

ตอนแรกคิดว่าจะไปแช่บ่อน้ำร้อนกันต่อ แต่ปรากฎว่าเราเลยเถิดกันไปมาก เลยไปไม่ทัน ปุ๊กเลยให้ไปที่พักเลย ระหว่างทางก็ลองแวะไร่วนิดาที่ตอนแรกนึกว่าจะพักกัน พอเห็นของจริง เราว่าโชคดีที่ไม่พักวะ เพราะดูน่ากลัวเล็กน้อย (คงเป็นเพราะเราไม่ชอบอะไรที่เป็นแนวล็อคโฮม) แล้วถึงได้ไปบ้านไร่ล้านนาที่จองเอาไว้ งานนี้รูปไม่หลอก เพราะสวยจริง แต่ทั้งรีสอร์ทมีแต่คณะเรา โคตรจะงียบ จนปุ๊กมุขว่าลุงที่มาเสริฟ์อาหารไม่ใช่คน ได้บรรยากาศหนังผีมากขึ้นไปอีก โชคดีที่ตอนหลังเจ้าของรีสอร์ทมานอนด้วย เลยค่อยลดความน่ากลัวลงหน่อย ตอนแรกเรากะนอนเล่นไม่ไปไหนแล้ว แต่ดูทั่นผู้ว่าฯ อยากไปแช่น้ำร้อนมาก เช้ามาก็เลยต้องตะกายไปบ่อน้ำร้อนกัน น้ำก็อุ่นดี แช่แล้วก็สบายตัว แต่ทางไปลำบากหลายเลี้ยว เล่นเอาอิชั้นจะเมารถซะให้ได้ พอแช่น้ำเสร็จ ก็แวะส่งหมูที่สนามบิน แล้วไปปิดท้ายที่ตลาดวโรรส

ถึงจะไปเที่ยวแบบสั้นๆ และมีกิจกรรมค่อนข้างเยอะ ไม่ได้แวะปล่อยอารมณ์ตามความตั้งใจเดิม แต่เราก็ชอบทริปนี้ (อาจจะเป็นเพราะอากาศหนาวกำลังดีด้วย) อยากจะไปเชียงใหม่อีก อยากไปนอน Guest house กิ๊บเก๋ที่ถนนนิมมานฯ ตื่นมาจิบกาแฟชิลๆ ตกค่ำก็ไปเดินเล่นถนนคนเดิน คงมีความสุขดีไม่ต้องมีรีสอร์ทเป็นของตัวเองก็ได้ แต่เอ... ไม่รู้ว่าเอจะยอมปันที่ท้ายไร่ที่เขาใหญ่ให้เราปลูกบ้านไว้นอนนับดาวเล่นรึป่าวน๊า...

Saturday, December 20, 2008

ตะลุยบ้านถวาย

เมื่อวานหมู, ปุ๊กและแม่ไปกันก่อน ส่วนเราตามไปตอน ๓ ทุ่ม เพราะติดต้องพี่รอสไปดูโรงงานที่คลอง ๑๒ แล้วกลัวว่าจะไปขึ้นเครื่องตอนทุ่มนึงไม่ทัน เลยไปจัดการเลื่อนตั๋วเรียบร้อยชนิดไม่ต้องถามพี่ณัฐ ปุ๊กเลยแซวว่า กลุ่มเราไม่มีความพอดี คนนึงก็ไม่ยอมนายซักอย่าง อีกคนก็ยอมซะทุกอย่าง ตอนนั่งรอขึ้นเครื่องถึงมีเวลามานั่งคิดถึงที่ที่พี่เอบอกว่า เป็นผู้หญิงไม่ต้องขยันทำงานมากก็ได้ แต่ก็ลืมไปได้ซะสนิทภายใน ๓ วัน แย่จริงๆ เลย ต้องปรับปรุงตัวใหม่แล้วนะเนี่ย พอไปถึงไผกับน้ำผึ้งก็มารับไปส่งที่ แถวๆ สนามบิน คืนละ ๙๐๐ ยาท แต่สภาพดีเชียว ค่าครองชีพที่นี้ถูกจริงๆ เลยวะ เชียงใหม่น่าอยู่จริงๆ นะเนี่ย

เช้ามาน้าแดงก็มารับไปตะลุบบ้านถวาย เราไปเริ่มกันที่ร้านที่ หห. แนะนำ เด็กในร้านจำคุณอุ่นได้ ก็เลยชวนคุย เราเลยมุขไปว่า เราจำนามสกุลใหม่ หห. ไม่ได้หรอก จำได้แต่นามสกุลเดิมของ หห. เพราะเป็นนามสกุลเดียวกับเจ้าของห้างเซ็นทรัล ทำเอาเด็กในร้านอึ้งไปเลย ๕๕๕...

แวะกันไปหลายร้านจนค่ำ ทำเอาแม่เครียด แต่ก็ได้ของครบ ที่จริงเราว่า ค่อยๆ หาไปก็ได้ แต่ผู้ว่าฯ ไม่สามารถที่ทำงานไม่เสร็จ เธอต้องจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ระหว่างที่รอปุ๊กเลือกเฟอร์ฯ เราก็ได้ที่วางทีวีใหม่มา ๑ ตัว แต่หนาแค่ ๔๐ ซม. เลยคิดว่าจะต้องซื้อทีวีใหม่ด้วย โอว... ช่างเป็นคนมีฐานะ(ไม่ดี)จริงๆเลย จนปุ๊กบอกว่า แม่สงสัยจริงๆ นะว่า เราเอาเงินมาจากไหนเยอะแยะ เลยถือโอกาสแก้ตัวกะแม่ว่า เราไม่ได้ซื้อกองทุนเต็มแมกซ์เหมือนปุ๊กนะ เราเอาเงินไปซื้อของนอกกายตะหาก แล้วพอแก่ตัว ก็ย้ายไปอยู่บ้านเพื่อนฟรี ฮ่าๆๆ

ก่อนนอนเราสารภาพ(บาป)กับหมูเรื่องหนีไปเที่ยงมัลดีฟส์ แต่ปรากฎว่าหมูเฉยๆ อ่ะ ทำเอาเรากับปุ๊กผิดคาด แต่ก็ดี อิอิอิ... จะได้ไม่รู้สึกบาป ก็เลยแซวไปว่า หมูอยากไปไหนล่ะ เลือกได้ ๑ ทริป จะไปมัลดีฟส์ก็ได้นะ เพราะหมะก็เกิดอยากจะไปเหมือนกัน แต่ดอนยังไม่ตอบอะไร ก็ต้องลุ้นกันไปล่ะงานนี้...

Friday, December 12, 2008

Ex-Plus Re-union Dinner

พี่เอรวบรวมชาวEx-Plus มากินข้าวปีใหม่ด้วยกัน แต่มีพี่หมวยติดมาด้วย เลยไม่สามารถใช้คำว่า Ex-Plus ได้เต็มปากเต็มคำ แต่งานนี้วินไม่มา เพราะลูกยังเล็ก ส่วนพี่หนุ่ยก็ไม่ได้มา เพราะคุณแม่ลื่นล้มกระทันหัน เลยต้องแจ้นไป รพ. และคุณกำนันทรที่ติดงานด่วน ก็เลยมีแค่พี่เอ, พี่หมวย, โอ๋ (มาได้งัยวะ สงสัยพี่เอจะจีบมาทำงานด้วย), ทั่นรองวิศรุต, ปุ๋ย, น้อง และก็เรา เนื่องจากสาวๆ ที่มาจะโสดกันหมด ยกเว้นโอ๋ เลยต้องเช็คข่าวกันให้วุ่นวายว่ามีใครมีแววจะได้ย้ายออกจาก ม. คานทองนิเวศน์บ้าง โดยเฉพาะเราโดนไอ้ปุ๊ยซักแล้วซักอีก บอกว่าไม่มีก็ไม่เชื่อ นี่อิชั้นพึ่งอกหักมาหมาดๆ นะยะ พี่เอเลยเช็คพวกสาวโสดว่าทุกวันนี้เลิกงานกันกี่โมง เสาร์-อาทิตย์ทำอะไร แล้วก็สรุปว่า เป็นผู้หญิงไม่ต้องทำงานให้หนักหรอก เอาเวลาไปทำอย่างอื่นดีกว่า ยิ่งเรามีโอกาสได้ดิวกับหนุ่มรวยๆ อยู่บ่อยๆ แล้วด้วย เราฟังแล้วนึกถึงที่ซินๆ พูดทันที น่านดิ สู้หาผู้ชายรวยๆ ซักคนแต่งงานไม่ได้ แต่แหมมมมมมม... พี่เอค่ะ ทำไมไม่พูดอย่างนี้ซะเมื่อ ๑๐ ปีที่แล้วละค๊า...

Friday, December 5, 2008

แก่ไปอีกปี

ผู้ว่าฯ มาขู่ว่า ๓ ตัวสุดท้าย ยัง... ปีหน้าตะหาก... แต่ใครๆ ก็ทักแบบนี้ ทักซะจนมีอยู่วันนึงอิชั้นตื่นขึ้นมาแล้วก็คิดว่า นี่กรู ๔๐ แล้วรึเนี่ย แก่โคตรเลยวะ ซักพักก็นึกขึ้นได้ว่า ยัง! โอ๊ย เครียด... อ่ะ เครียด... วันเกิดปีนี้ ป้าๆ ไปเลี้ยงติ๋มซำให้ (ร้านแถวซอยอารีย์ อร่อยดี-ราคาไม่แพง) หญิงบอกว่า ให้มีเลี้ยงของปุ๊กอีกรอบ ไม่งั้นเรากับปุ๊กต้องต่างคนต่างเลี้ยงอีกคนนึง ถือว่าเจ๊ากันไป โห... คิดได้งัยเนี่ย

ปุ๊กเอาการ์ดแต่งงานมาให้ จ่าหน้าซองว่า “อาจารย์พี่หนุงหนิง” เห็นแล้วขำดี เลยเก็บไว้เป็นที่ระลึกดีกว่า เพราะโลกใบนี้ มีแค่ไม่กี่คนที่เรียกอิชั้นแบบนี้ และเรียกซะจนเป็นชื่อทางการไปแล้ว ตลกดีจริงๆ

ค่ำๆ หมะโทรมาบอกเบอร์อี้ เพราะจะให้เราโทรไปนัดเพื่อไปเยี่ยมกู๋ สั่งงานเสร็จก็วางหูไป ทำเอาอิชั้นงงไปเล็กน้อย นี่หมะลืมวันเกิดเรารึเนี่ย ทั้งๆ ที่วันก็จำง่ายออก ดีนะเนี่ยที่แก่แล้ว เลยไม่งอน ฮ่าๆๆ...

Thursday, December 4, 2008

ใกล้บ้าล่ะ

ผู้ว่าฯ อยากรู้เรื่องดินเนอร์เวอร์ชั้นใส่ไข่ ๕๐๐ ฟอง ของอิชั้นมาก แต่ก็ไม่มีโอกาสจะเล่า (ทั้งๆ ที่อยากจะเม้าท์ใจแทบขาด) เพราะงานยุ่งมาก ทำไมนะเหรอ ก็ไม่รู้ ๒-๓ วันนี้ ตาพี่แตนของเรากินอะไรเข้าไป จู่ๆ มา comment shop drawing แหลกลาน แต่ shop พวกนี้ อิชั้นอนุมัติไปหมดแล้ว บางฉบับอนุมัติไป 2 เดือน แล้วด้วยซ้ำ ไม่รู้ตอนนั้นมันไปอยู่ที่ดาวอังคารรึงัย ที่เซ็ง คือ comment เฮียดันมาแย้งกับพี่รอสอีก งานนี้ไม่รู้มือประสาน ๑๕ ทิศ (๑๐ ทิศ ยังไม่พอ ๕๕๕... บ้าไปแล้ว) อย่างอิชั้นจะรอดตายรึป่าว เฮ้อ...

ยังไม่พอ ต้องไปตบกับอีตาประสาทเรื่องโอทีลูกน้องมันอีก ส่งมาให้ช้า แล้วมาบอกว่าต้องเซ็นเลยเดี๋ยวนี้ แถมยังทำมาไม่เรียบร้อย คิดผิด-คิดถูก บวกเลขแค่นี้ยังผิด ชีวิตนี้จะทำอะไรให้มันได้เรื่องซักเรื่องได้ไม๊เนี่ย เลยต้องเรียกมันมาตักเตือนความประพฤติลูกน้องมันอีก คิดว่าซักวันมันคงจะตบชั้นคว่ำไปเป็นแน่ (ตบด้วยมือจริงๆ) เบื่อ อ่ะ เบื่อ...วันนี้ใส่เสื้อใหม่สีแดงมาทำงาน ไอ้น้ำเต้าหู้บอกว่า “ดูน่ารักมากครับ” เอ่อ... เพื่อนๆ พี่-น้องค่ะ ขอตัวไปอ้วกก่อนนะคะ อ้วกกกกกกกกก...

ป.ล. งั้นจะเล่าดินเนอร์หวานหยดให้พอสังเขปละกันว่า เมื่อวานนี้อิชั้นไปดูตัวว่าที่น้องเขยมาแล้ว ตา ฟ. เป็นฝรั่งตัวเล็ก (เสียพันธุ์เยอรมันหมด) นี่ถ้าพี่ณัฐเห็นต้องบอกว่าเป็นฝรั่งแคระอีกคน ฮ่าๆๆ แต่เป็นคนสุภาพมากกกกกก ถาม นจว. นี่โน่นนั่นตลอดเวลา ส่วน นจว. ก็พูดจาดีไม่มีแขวะ (ก็แหงล่ะ คนพึ่งจะเจอกันเป็นครั้งแรก) ปาดอกไม้กันไปมาอยู่นั่นแหละ แหม... อิจฉาวุ๊... จนเราแอบคิดไม่ได้ว่า สงสัย Seasons หน้าปร้าๆ จะได้ไปดำน้ำที่เกาะเต่าซะแล้วววววว แล้วมา กทม. บ่อยๆ นะค๊า... คุณ ฟ. อิอิอิ...