Sunday, June 29, 2008

น้องพิม


ดิวมา กทม. เลยนัดเจอกัน แน่นอนต้องไปบ้านดิว เพราะคิดว่ามันคงสะดวกสำหรับดิว คราวนี้มีน้าหนิง, น้าปุ๊ก และน้าหมูไปกันแค่ 3 คน เพราะน้าหญิงติดภารกิจลูกกตัญญู ต้องพาแม่ไปฟังสัมนา (ดิวน่ารักมาก ที่ยอมให้เพื่อนโสดๆ เป็นแค่คุณน้า 555...)

มาคราวนี้น้องพิมโตขึ้มาอีกหน่อย พูดได้มากขึ้นแล้ว ว่าแล้วเจ้าหล่อนก็ร้องเพลงร้องกระทงโชว์น้าๆ ซะหลายรอบ ซึ่งขัดกับหน้าตาของเจ้าตัวยิ่งนัก (ฝรั่งซะขนาดนั้น) แม่ดิวบอกว่า คราวหน้ามาจะให้น้องพิมพูดภาษากวางตุ้งโชว์น้าๆ ด้วย โอ้ว... เก่งจริงๆ เลยหลานชั้น... ; )

Thursday, June 19, 2008

อิทธิฤทธิ์ของข่าวลือ

กำลังต่อราคากันอยู่กับผู้รับเหมา ก็ได้ยินเสียงดังตึงใหญ่ คนในห้องประชุมก็ขำๆ แล้วก็ประชุมต่อ มารู้ทีหลังว่า ไอ้เสียงดังตึงใหญ่นั้น คือ เอ๋วูบไป เลยล้มซะโครมใหญ่ พอซักพักนึง ช่างแว่นก็โทรมาหาเราด้วยความตกใจ เพราะข่าวลือที่ช่างแว่นได้ไป คือ เอ๋ล้มในห้องน้ำ (ความจริง คือ มันล้มในออฟฟิส) และหมอสรุปว่ามันต้องทำบอลลูนหัวใจ (ความจริง คืด หมอกำลังเช็คหัวใจมันเพื่อหาความผิดปกติอยู่) เฮ้อ... ห้ามประมาทอิทธฤทธิ์ของข่าวลือจริงๆ นะเนี่ย แต่จะว่าไป เราก็หนาวๆ เพราะ หห. ก็เคยเป็นแบบนี้ เกิดเราเป็นตอนอยู่คนเดียว จะทำงัยวะ คิดแล้วก็สยองเหมือนกัน...

พอหายตกใจเรื่องเอ๋ ก็มีพลเอก หรือพันเอก ก็ไม่รุ จำไม่ได้ซะล่ะ จำได้แต่นามสกุลของทั่น (สารสิ-) โทรมาโวยว่า หลังเต่ายักษ์ของโครงการฯ ทำทัศนียภาพหน้าบ้านเช่า (ที่โครงการฯ ได้เช่าจากทั่นมาแล้ว) ของทั่นเสียหาย และแม้ว่าหลังเต่าอันนั้นมันจะสร้างอยู่บนถนนซึ่งเป็นที่ดินของโครงการฯ ก็ตาม หลังจากโวยอยู่ ๑๐ นาที ก่อนวางหูคุณลุงพลเอก หรือพันเอกนี่แหละบอกเราว่า “พวกคุณต้องรีบดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้โดยด่วน ผมจะบอกให้ว่า ผมสามารถให้ตำรวจมาถึงโครงการฯ ภายใน ๑๐ นาที ถ้าโครงการฯ คุณโดนระงับการก่อสร้างจะเสียหายมากกว่า ไปลองคิดดู!” แหม ไม่ต้องขู่กันขนาดนั้นก็ได้ค่ะ แค่ตัวคุณพี่ก็ยศหญ่ายซะขนาดนั้นแล้ว ถึงไม่บอก นังเย็นอย่างอิชั้นก็พอจะคาดเดาถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของทั่นได้ แต่ว่า... การใช้อำนาจหน้าที่ในทางที่มิชอบแบบนี้ ทั้งชาติบ้านเมืองและตัวทั่นเองจะไม่เจริญนะคะ แล้วถ้าใหญ่มั่กๆ ขนาดนั้นจริง ช่วยไปปราบโจรใต้ให้อิชั้นหน่อยเถอะคะ เรื่องมันก็หลายปีแล้วนะคะ ตกลงยังจะปราบปรามกันอยู่อีกหรือไม่เจ้าคะ ชาวบ้านชาวเมืองอย่างอิชั้นจะได้ปฎิบัติตนถูก พอเราเล่าเรื่องตาลุงนี่ให้พี่ณัฐฟัง พี่ณัฐบอกว่า “เจอพวกซื้อของในพารากอนอีกล่ะ เบื่อว่ะ” นั่นดิ หนิงก็เบื่อเหมือนกัน แต่เราก็ต้องทนเบื่อใช่ป่ะ เบื่อโว๊ยยยยยยยยยยย....

Sunday, June 15, 2008

เก็บตกหัวหิน

คราวนี้เก๋ไม่ไป ไม่รู้เพราะอะไรแน่ ป้าๆ ก็คาดเดากันไปต่างๆ นาๆ แต่เราคิดว่า มันคงยังไม่หายรู้สึกผิดเรื่องลูกหยีมั๊ง (ไม่รุ มันจะเป็นบัวพ้นน้ำเมื่อไหร่ หญิงทำหน้างงๆ บอกว่า “อ้าว เรื่องมันจบไปตั้งนานแล้วไม่ใช่เหรอ” เราบอกว่า “เออ แต่ไอ้เก๋มันยังไม่ยอมจบน่ะ”) งานนี้เลยมีปุ๊กกับแม่ (ซึ่งแยกไปพักที่เชอราตันเพราะปุ๊กได้บัตรพักฟรีมา) ส่วนหญิง, เรา, หมู และนิจ พักที่โซฟิเทล ตามมาตรฐานโรงแรม 5 ดาวของนิจ ซึ่งงานนี้นิจทุ่มจ่าย 50% ของราคาที่พัก ส่วนปุ๊กจะเลี้ยง Seafood ๑ มื้อ เราตั้งใจจะกินปูซัก ๕ ตัว 555...

บังเอิญว่าอาทิตย์นี้เป็น Jazz Festival คนเลยเยอะมาก เขามีจัดงานแถวชายหาดหน้าโรงแรมที่พัก กินข้าวเย็นเสร็จพวกเราเลยไปเดินดูบรรยากาศกัน เราว่าหน้าตาคนมาดู ไม่เหมือนพวกชอบฟังแจ๊ส เหมือนคนที่มาดูคนฟังแจ๊สมากว่า บรรยากาศก็ออกจะคล้ายๆ งานวัด แต่บังเอิญมาตั้งอยู่ริมหาด เลยดูไฮโซขึ้นมานิดๆ และมีร้านมาขายของกินด้วย หนึ่งในนั้นคืด ร้าน Below 18 Degree ของอดีตนางเอกสาวสลักจิต ดลมินทร์ ซึ่งเราฟังเขามาออกรายการสุริวิภา เลยปรี่เข้าไปจะซื้อ แต่พอเห็นราคาลูกละ ๘๐ บาท เลยต้องถอยออกมา โอ้ว... ชาตินี้พี่คงไม่มีวาสนาได้ลิ้มรส เศร้า อ่ะ เศร้า... แล้วก็เดินต่อ เดินไปจนสุดงาน ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ หญิงหันมาบอกว่า “กลับไปดู Concert AF ดีกว่า” 555... อุตส่าห์มาช่วงงาน Jazz Festival นะเนี่ย...

ทริปนี้เปลี่ยนจากทริปถอนผมหงอก เป็นทริปย้อมผม ขนาดแม่ยังแซวว่า ใจคอสาวๆ จะมาเปลี่ยนที่ย้อมผมกันรึงัย เอาเข้าจริง นิจได้หมูเป็นช่างทำผมให้ หมูทำได้คล่องแคล่วมาก และคงเป็นเพราะผมนิจสั้น เลยเหลือมาย้อมให้เราได้อีกนิดหน่อย แม่ชมว่า นิจย้อมผมได้สวยดี เลยทำเอาหน้าบานทั้งช่างทั้งคนมาเสริมสวย 555...

ขากลับเราเห็นชาย-ชาตโยดม กับ สุรพล ชาวปากน้ำ (ตัวจริงขาวกว่าในทีวี) และผู้หญิงอีกคน แต่หน้าตาไม่ยักเหมือนน้องวิกกี้ ก็เลยอดทำตัวเป็นปาปารัสซี่ อดได้ตังค์ แหม... ก็เขาจ่ายกันตั้ง ๓๐๐ บาทต่อภาพเชียวนะ แต่ที่ขำ คือ แม่แซวว่า เราคงเป็นเนื้อคู่กับชาย เพราะบังเอิญเจอกันตั้ง 2 ครั้งแล้วนะ 555...

ปล. คราวนี้ไม่มีรูปประกอบนะ เพราะนิจเอากล้องใหม่ไปลอง เราว่า ถ่ายออกมาดูดีกว่ากล้องเราโคตรๆ เลยละอายใจเก็บรูปไว้ดูคนเดียว ฮือๆๆ...

Friday, June 13, 2008

Sex and the City

วันนี้เรากลับเร็วเลยมีคนแซว พอบอกว่าจะไปดูหนังเรื่อง Sex and the City ผู้ชายแถวนี้ก็อ้าปากหวอกัน เราถึงถึงบางอ้อว่า ชื่อหนังมันโป๊ไปหน่อย เลยต้องแก้ตัวพัลวัน แหม... เสียภาพพจน์หมด พอไปถึงโรงหนัง ก็มีปัญหาอีก เพราะเราไม่ได้รับโทรศัพท์ Confirm ที่นั่ง เขาเลยไม่ยอมให้ตั๋วเรากับหมู อ้าว ใครจะไปรู้ล่ะ ก็ทุกทีนกจัดการให้มันเลยนิ แถมซวยตรงที่เขาโทรมาเมื่อเช้า เรากำลังประชุมอยู่ เลยไม่ได้รับโทรศัพท์ เลยชวดตั๋ว ต้องย้ายมาอยู่ในโหมด Stand-by เราเลยโวยวายใหญ่ โชคดีที่พี่กูลอยู่แถวนั้น เขาได้ยินเสียงคนโวยวายเลยหันมาดู พอพี่กูลพูดว่า “อ้าว หนิงเองเหรอ” แค่นั้นแหละ ยัย CS Manager ที่พยายามชี้แจงกับเรามาโดยตลอดว่า เราต้องรอก่อนก็พูดขึ้นมาทันทีว่า “เชิญเลือกที่นั่งด้านนี้ค่ะ” แหม... นี่พี่กูลยังไม่ทันได้พูดประโยค ๒ เลยนะเนี่ย ช่างใหญ่โตจริงๆ เลยพี่เรา เราเลยให้หมูไปเลือกที่นั่ง แล้วตัวเองแว่บไปขอบคุณพี่กูลเล็กน้อย นึกในใจดีนะเนี่ยที่ไม่เชื่อนก เพราะนกบอกให้โทรไปหาพี่เมธาเลย เราว่ามันออกจะเว่อร์ไปนิดนึง แค่เรื่องดูหนังนี่อ่ะนะ ต้องไปรบกวน CEO เสียเงินดูเองก็ได้ และที่สุดก็ได้ดูฟรีจนได้ ดีใจจัง...

ปุ๊กบอกว่า พวกคนเขียนวิจารณ์หนังบอกว่า หนังเรื่องนี้เป็นหนังของป้าวัย ๔๐ พอเราไปดูถึงเข้าใจ ทีแท้ก็เพราะป้าแครี่ได้แต่งงานตอนอายุ ๔๐ นี่เอง ซึ่งก็นับว่าเป็นหนังให้กำลังใจเรามาก 555... โดยรวมๆ หนังก็โอนะ ชุดสวยทุกชุด สมราคาหนัง ที่เราชอบ คือ มุขคำพูด เราว่าเขาเล่นคำได้ดี ดูแล้วก็ฮาดี (แต่ขอบอกว่า ถ้าได้คนอังกฤษมาเขียนบท จะฮากว่านี้อีก เพราะคนอังกฤษมีพรสวรรค์เรื่องตลกเสียดสีประชดประชันมาก - อันนี้จากประสบการณ์ตรง) เราชอบตอนที่ชาล๊อตบอกว่า ถ้าได้เจอหน้าบิ๊กอีก จะด่าบิ๊กให้แสบเพราะบังอาจมาสติแตกทิ้งเพื่อนรักในวันแต่งงานซะได้นิ (เราว่าบิ๊กโดนแครีย์ตบด้วยมือนั่นยังน้อยไป น่าจะโดนตบด้วยเปลือกทุเรียนตะหาก 555...) ซึ่งชีคิดไว้แล้วว่าจะด่าบิ๊กว่าอะไร ชีจะด่าว่า “I’ll curse you for …” นั่นด่าแล้วรึวะ สมกับเป็นชาล๊อตจริงๆ 555... แต่หนังเรื่องนี้โป๊กว่าในทีวีมาก เบ้บอกว่า ซีรียส์นี้ที่อเมกาก็โป๊แบบนี้ และเผลอๆ อาจจะโป๊กว่าด้วยซ้ำ ที่เคเบิลเมืองไทยเขาตัดฉากโป๊ๆ ออกน่ะ พึ่งรู้นะเนี่ย แต่ที่เศร้าใจที่สุด คือ เบ้บอกว่า อย่าไปพูดว่าเป็นหนังของป้าๆ เพราะตอนนี้เราเรียกคนอายุ ๔๐ ว่า "พี่" แต่อีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราก็จะเรียกคนอายุ ๔๐ ว่า "น้อง" ฟังแล้วเศร้าโคตรๆ โฮๆๆ...

Thursday, June 12, 2008

เมื่อนังเย็นโดนขู่

ตอนเช้าโดนชาวบ้านโทรมาด่าเรื่องคนขับรถดินขับรถเลวมาก อิชั้นก็ได้แต่ “ค่ะ แล้วจะย้ำกับหัวหน้าชุดให้ค่ะ แต่ยังงัยคราวหน้ารบกวนแจ้งเลขทะเบียนรถด้วยนะคะ” ตกบ่ายก็มีอีกโทรศัพท์นึง แต่คราวนี้ออกแนวข่มขู่แบบโรคจิต เฮียโทรมาบอกว่า “คราวนี้ผมแค่โทรมาเตือนคุณ คุณไม่ต้องรู้หรอกว่าผมเป็นใคร รู้แค่ว่าผมรู้ว่าคุณเป็นใครก็พอ และผมจับตามองพวกคุณอยู่” ไอ้บ้า ตอนเย็นๆ อิชั้นเดินไปซื้อข้าวเย็นกินคนเดียว อิชั้นจะโดนดักตีหัวไม๊เนี่ย... เฮ้อ...

Saturday, June 7, 2008

บ่อยไปป่ะ???

ตอนแรกหงษ์บอกว่าจะเลี้ยงข้าวเย็น เนื่องในโอกาส “ช่างคุย” มีอายุครบ ๒ ปี แต่ชั้ยมาเบี้ยวในนาทีสุดท้าย งานเลยล้มเฉยเลย พอดี๊ พอดี หญิงโทรมาชวนไปกินข้าว เราเลยไม่ต้องกินมาม่าช้อนสั้นเย็นนี้ และเพราะเป็นการนัดกระทันกัน ปุ๊กเลยไม่ได้เอาหนังสือเที่ยวญี่ปุ่นติดมาให้เรา ก็เลยต้องนัดกันใหม่อีกทีพรุ่งนี้ ให้ตายเหอะ จะเจอกันบ่อยไปแล้วไม๊เนี่ย…

ตอนบ่ายอู้งาน แว่บเล่น hi5 เลยเจอที่แฟนเบ้มาโพสต์ไว้ อ่านแล้วก็ขำดี เขาบอกว่า...


เพื่อน...ก็เหมือนน้ำ เฉยๆแต่ขาดไม่ได้
แฟน...ก็เหมือนข้าว บางทีก็ไม่หิว แต่ต้องกิน
ชู้...ก็เหมือนเหล้า รู้ว่าไม่ดี แต่ชอบ อ่า...
กิ๊ก...ก็เหมือนน้ำหวาน นานๆทีก็โอ... มากไปก็เลี่ยน
แฟนเพื่อน...ก็เหมือนเหล้าเถื่อน...ร้อนแรงแต่อันตราย

เห็นด้วยว่า “เหล้าเถื่อน”นี่มันเร้าใจจริงๆ 555...

Thursday, June 5, 2008

อายเขาไม๊ล่ะ

พี่สแตนฯ บอกให้พี่รอสเพิ่มห้องพักคนขับรถในชั้นใต้ดิน แล้วก็บอกว่า อย่าลืมใส่ห้องน้ำให้คนขับรถไว้แถวๆ นั้นด้วยนะ พี่รอสตอบว่า “Don’t worry. Our project has lots of toilets. Probably, they are lots more than Suwannaphumi Airport.” ฟังแล้ว จอห์นกับโอนเนอร์ฮ่องกง 2 คน ก็ฮาแตก มีคนไทยนั่งหน้าชาๆ อยู่ เรางี้นึกในใจ กรูจะด่าใครดีระหว่างไอ้พี่ตั๊กกับไอ้สุริยะ โฮ... ทำมาเป็นคุยว่าจะเหนือกว่าสนามบินฮ่องกงหรือสิงคโปร์ อิชั้นว่า เอาชนะสนามบินมาเลย์ฯ ให้ได้ก่อนเต๊อะ แล้วค่อยเสนอหน้าไปแข่งกับอีก 2 ประเทศนั้น อุตส่าห์สร้างสนามบินทีหลังชาวบ้านเขา แต่แค่สาธารณูปโภคพื้นฐานที่สุดที่เป็นสิ่งปลูกสร้าง ยังทำได้ห่วยขนาดนี้ ไม่ต้องคิดเลยว่า การจัดการสนามบินที่ต้องใช้ “คน” ในการดำเนินการมันจะยิ่ง... เฮ้อ... ประเทศไทย...