Friday, November 30, 2007

ได้ฤกษ์ก่อสร้าง(จริงๆ)ซะที

เช้าไปขอวีซ่าไปอังกฤษ เพราะเขาบอกว่าถ้ามีปัญหาต้องสัมภาษณ์ จะใช้เวลา ๓ อาทิตย์ (จากเคสปกติที่ใช้เวลาแค่ ๑ วัน) เราเลยต้องรีบแจ้นไปขอวีซ่าแม้ว่าจะยังติดต่อคุณน้องไม่ได้ก็ตาม (ลุ้นอิ๋บอ๋าย เพราะเราอ้างชื่อคุณน้องไปด้วย) แต่สุดท้ายเราก็ได้วีซ่าเลยในวันนั้น ดีใจจัง จะได้ไปเที่ยวแล้ว

วันนี้โครงการฯ ได้ ๓๙ ทวิ เพราะได้ EIA เมื่องานนี้เอง พอซีฟโก้เจาะเข็มปุ๊ป ไอ้เจกับไอ้สันฯ ก็หาเรื่องโครงการฯ ทันที เริ่มจากไอ้สันฯ โทรมาด่าเราเรื่องที่ครอบแอร์ว่า ทำงานไม่ดี แอร์เสียงดังโคตรกว่าเดิม แล้วไอ้เจก็มาที่ไซท์กับมัน (เพื่อนบ้านแสนดีจริงๆ) พร้อมด้วยเครื่องวัดเสียงสั่วๆ ของไอ้สันฯ ที่วัดทีไรก็สูงกว่าเครื่องวัดของโครงการทุกครั้งไป และพอถามว่า Calibrate ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ก็จะอ้อมแอ้มตอบว่า ไม่เคย Calibrate ของมันเป็นแบบเครื่องวัดเสียงสมัครเล่น แหมโว้ย… แล้วมึ-จะมาโวยอะไรเนี่ย ไอ้เจเลยขู่เราว่า มันจะฟ้องเขตฯ ทุกวัน ให้เขตฯ มาวัดเสียงด้วย รับรองโครงการฯ โดนปิดไซท์แน่ แต่คุณเบนบอก ไม่ต้องสนใจ ขอให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็พอ เราค่อยสบายใจขึ้นหน่อย เกลียดมัน ๒ ตัว จริงๆ แล้วก็นึกสมน้ำหน้าที่มันโก่งค่าที่ดินซะแพงจนโครงการฯ ซื้อไม่ลง จะมาลดราคาตอนนี้ก็ไม่ทันล่ะ เพราะมาสเตอร์ แพลนเสร็จแล้ว ที่ดินของมันมีค่าแค่เป็นที่จอดรถของโครงการฯ เท่านั้น ซึ่งก็ไม่จำเป็น เพราะโครงการฯ มีที่จอดรถเหลือเฟือ (ก็เล่นขุดลงไปซะ ๓ ชั้น) สมน้ำหน้าจริงๆ

พอหัวฟูกลับมานั่งที่โต๊ะได้ ๒ นาที คุณนพก็เรียกเราไปคุย เรางี้นึกในใจ ถ้าเรียกมาด่าล่ะโดนด่ากลับแน่ เพราะป้ากำลังอารมณ์ไม่ดีสุดๆ ขอบอก แต่กลับกลายเป็นว่า คุณนพบอกว่า พี่วิลฯ ฝากมาชมเราว่า เราดูเอกสารละเอียดขึ้น-ทำงานเรียบร้อยมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกสารประมูลผู้รับเหมาหลักของโครงการฯ ซึ่งจริงๆ เราก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า พี่วิลฯ จะชมหรือประชดเรากันแน่ เพราะถ้าเทียบกับสิ่งที่เราต้องอ่านทั้งหมด เราพึ่งจะอ่านไปได้แค่ ๑๐% เอง ทั้งๆ ที่ตอนนี้โครงการฯ จะ award ผู้รับเหมาหลักร่อมร้ออยู่แล้ว แถมที่สำคัญ พึ่งจะรบกันเรื่อง P-Trap ไปหมาดๆ แต่ก็เอาเหอะ เชื่อดีกว่าไม่เชื่อ ว่าแล้วคืนนี้เราเลยต้องหอบเอกสารตั้งใหญ่มาอ่านต่อที่บ้าน เพราะกลัวโอนเนอร์จะผิดหวังในตัวเรามากไปกว่านี้ เฮ้อ… เหนื่อยๆๆ…

Saturday, November 24, 2007

ลอยกระทง

ตอนแรกนึกว่าจะไปลอยกระทงด้วยความสุข ที่ไหนได้โครงการดันมีเรื่องทุกวัน ไม่เว้นแม้แต่วันนี้ จะอะไรซะอีกล่ะ ก็ลูกน้องของพี่วินสุดเลิฟของเราไปรื้อโดนสายไฟกับท่อน้ำของโรงแรมเข้าแบบไม่ได้ตั้งใจ ก็ใครจะไปรู้วะว่า โรงแรมยังจะมีท่ออะไรต่อมิอะไรฝังอยู่ในโครงการ คุณใหม่วิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าเพื่อช่วยหาไฟชั่วคราว แต่กว่าเราจะรู้เรื่องก็บ่ายหล่ะ พอหันไปเห็นทีมเฮีย ปส. นั่งสูบบุหรี่คุยกัน เราเลยออกไปสั่งให้พวกมันช่วย Acting ซะหน่อย อะไรกันเป็นงานระบบซึ่งเป็นงานในส่วนของมันแท้ๆ มันยังจะมาอิดออด แต่พอเห็นโอนเนอร์เดินมาเท่าั้นั้นแหละ 3 ตัว ลุกขึ้น Acting พรึ่บพรั่บ เราหมั่นไส้จนทนไม่ได้ เลยพูดกับโอนเนอร์ไปว่า “สบายใจได้แล้วค่ะ ไมนฮาร์ท Acting แล้ว” เหตุการณ์ถึงได้สงบ ให้ตายเหอะ นี่ถ้าโอนเนอร์ไม่เห็น มึ-จะไม่ทำหรืองัยวะ ไม่น่าเชื่อว่า จนยุคนี้แล้ว ยังมีพวกทำงานเอาหน้าอยู่อีก จะบ้าตายจริงๆ กว่าจะเคลียร์ขั้นต้นเสร็จก็เย็นๆ ได้เวลาไปลอยกระทงพอดี งานนี้เลยรอดพ้นหวุดหวิดจากการตอบคำถามน่าอึดอัดว่า คืนนี้จะไปลอยกระทงที่ไหนเหรอ เพราะเราจะตอบอย่างเสียงดังฟังชัดว่า ไปลอยบ้านเพื่อนค่ะ (ต้องขอขอบพระคุณท่านเจ้าของบ้านไว้ ณ ที่นี้) แต่ไม่ได้บอกนะว่า มีแต่เพื่อนสาวๆ เฮ้อ…

เรานัดกับหมูและหญิงที่คอนโด (หญิงเอากระทงมาอีกตะหาก ฮ้า… เอาจริง วุ๊…) และงานนี้เราเตรียมตัวมาดีมาก เพราะปรินท์แผนที่มาเรียบร้อย (ก็ หห. ให้แต่แผนที่แถวบ้าน ไอ้ครั้งเราจะให้วาดตั้งแต่สาทร ก็เกรงใจ) มีหมูเป็นเนฯ ไม่นานก็มาถึงบ้าน หห. งานนี้มีปุ๊ก, เก๋, หญิง, หมู, เรา และ ๒ เจ้าของบ้าน คุณอุ่นรีบบอกว่า ไม่ได้ชวนพี่โก๊ะโกะ เพราะไม่คิดว่าเราจะเอาจริง เฮ้ย… พูดงี้ได้งัย เดี๋ยวก็งอน กลับบ้านซะเลย…

ก่อนกินก็ต้องชมบ้านก่อน มาบ้านสถาปนิกทันที จะไม่เยี่ยมชมบ้านได้ยังงัย บ้านก็น่ารักไม่เสียชื่อที่เจ้าของบ้านมีสัมมาชีพเป็นสถาปนิก หมูงี้ชมตลอดเวลา แล้วก็ได้เวลากิน ก็กินไป-คุยไป-มุขไป จะมุขขนาดไหน คุณอุ่นก็ไม่ยอมโทรไปหลอกพี่โก๊ะโกะมาจริงๆ สุดท้ายหลังจากที่โดนเรามุขเอาจริงไปหลายดอก คุณอุ่นก็ยอมเอารูปพี่โก๊ะโกะมาให้ดู (กว่าจะได้ดูรูป เล่นเอาป้าออกแรงซะเหนื่อยขนาดนี้ เฮ้อ…) หน้าพี่โก๊ะโกะไทยมากๆ จริงๆ ด้วย แต่ที่เราผิดหวังมากๆ คือ ทำไม Art Director แต่งตัวเชยงี้วะ ติสจรืงป่าวเนี่ย แหม… ไอ้เราก็วาดฝันซะ… เฮ้อ… คุณอุ่นเลยได้ทีพูดว่า "เห็นไม๊ ผมบอกแล้ว คุณหนิงไม่ชอบเพื่อนผมหรอก" รอดพ้นจากการถูกเราเหน็บเรื่องไม่ยอมแนะนำพี่โก๊ะโกะไปในบันดล

ก่อนแยกย้ายกันกลับ ป้าๆ เปลี่ยนใจไม่เดินไปลอยกระทงที่คลองแถวบ้าน หห. เพราะกลัวสวัดดิภาพตัวเอง เนื่องจาก หห. เตือนว่า แถวนั้นจิ๊กโก๋-วัยรุ่นเยอะ เกิดมันไม่แซวป้าขึ้นมา จะเสีย Self กันแย่ สู้กลับบ้านไปนอนตีพุงเลยให้สบายใจจะดีกว่า (ก็เล่นกินกันซะเต็มคราบขนาดนั้น) เลยเป็นอันไม่ Complete มิชชั่นวันลอยกระทงไปซะฉิบ…

Friday, November 23, 2007

เกรี้ยวกราด

เมื่อวานพี่ Stanley เรียกเราไปเคลียร์เรื่องแบบ เคลียร์ไปเคลียร์มา ดันมาวกเข้าเรื่องเราตรวจแบบช้า เราเลยปรี๊ดขึ้นมาทันที โวยกลับเรื่องคนไม่พอทันที แถมพูดว่าที่พูดมามันไม่ใช่สโคปของบริษัทเรา ทำเอาเฮียอึ้งๆ ไป พอบ่ายๆ พี่ณัฐมา เฮียก็เรียกพี่ณัฐไปคุย แต่ดูเหมือนว่าเหตุการณ์จะดี เพราะพี่ณัฐกลับมาบอกเราให้หาคนมาช่วยเพิ่ม ฮ้า… รู้งี้โวยไปนานล่ะ

หลังจากที่เราโดนประชดว่าจากโอนเนอร์ว่า อย่าเชื่อผู้รับเหมาทั้งหมดจนกว่าจะเห็นด้วยตาตัวเอง เพราะพี่วิลฯ มุดลงไปดู P-Trap แต่หาไม่เจอ วันนี้เราไม่ยอมแพ้ เพราะเราว่าไอ้แจ๊คไม่กล้าหลอกเราแน่นอน เราเลยบังคับให้มันมุดลงไปถ่ายรูป P-Trap ให้เรา ถึงรู้ว่าที่แท้พี่วิลฯ ของเรามุดผิดรู พอเราส่งรูป P-Trap ไปให้วิลฯ ดู เรื่องเลยมาจบที่ พี่วิลฯ ให้เราเปลี่ยน P-Trap จากท่อ PVC ให้เป็นท่อเหล็กชุบฯ แทน ชนิดไม่ยอมเสียฟอร์มโอนเนอร์ ยังงัยก็ต้องขอเป็นคนพูดประโยคสุดท้าย เฮอะ… เรื่องอื่นพอยอมกันได้ แต่มาหยามกันเรื่องคุมผู้รับเหมา เรายอมไม่ได้เด็ดขาด

พอตกบ่ายเราก็โต้เมลล์กับคุณ อ. เรื่องไฟสปอต์ไลท์ หนอย… ยืมมา ๑ ดวง จะให้คืน ๒ ดวง จะบ้าเหรอ สุดท้ายมาจบที่ คุณ อ. ยอมสารภาพมาว่า อีกดวงนึงมันอยู่มากับต้นไม้ตั้งแต่ชาติที่แล้วก่อนที่จะเริ่มโครงการซะด้วยซ้ำ (เออ… กรูจะรู้ไม๊เนี่ย…) ให้เราช่วยหามาคืนหน่อย เออ… เห็นเราเป็นอะไรเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ เราจะช่วยตามล่าจากผู้รับเหมามาให้

หลังจากตบตีกับโอนเนอร์ไปครบ ๓ คน เราเลยโดนหนุ่มๆ ในออฟฟิสแซวว่า หมู่นี้ดุจัง หนอย… เล่นรุมเราซะขนาดนี้ ใครจะไปยอมได้ล่ะ และเพราะมัวแต่ไปทะเลาะกับชาวบ้านเขา เราเลยทำงานไม่เสร็จ เลยตัดสินใจเสียสละการไปโยนโบว์ลิ่งการกุศล ชิงถ้วยคุณพี่จอร์จ คลูย์นี่ เอ๊ย คุณจอร์จ เบบนี่ - จีเอ็มของโรงแรม เพราะเราจะต้องรีบเคลียร์งานเพื่อที่จะได้ไปลอยกระทงที่บ้าน หห. ซึ่งจะต้องลุ้นว่า คุณสามีของ หห. จะยอมหลอกพี่โก๊ะโกะมาให้เรารู้จักหรือป่าว วู้… ลุ้นระทึก แฮะ…

Monday, November 19, 2007

รักวันจันทร์

ชั่งใจอยู่นานว่าจะหัวข้อว่าอะไรดี ระหว่างรักวันจันทร์, Construction Technology 3 หรือว่าฉันรักผัวเขา! แต่ด้วยความที่มีกุลสตรีไทยอยู่ในตัวเล็กน้อย เลยเอาอันสุดท้ายออกเป็นอันแรก ทำไมนะเหรอ เพราะเมื่อวานนี้ตอนกลับจากพัทยา ริทซ์บ่นใหญ่เลยที่พรุ่งนี้ คือ วันจันทร์ แต่เรากลับรู้สึกเฉยๆ เลยให้เอะใจว่า โรคเกลียดวันจันทร์ของเรามันหายไปตอนไหนวะ

ทุกวันจันทร์บ่าย 3 เราจะมี Technical Meeting ซึ่งมีตา ปส. เป็นลีดในการประชุม เฮียเลยพูดได้อย่างเมามัน ชนิดไม่ต้องเกรงใจใคร จะว่าไปเฮียเขาก็รู้มากจริงๆ นั่นแหละ แต่เราคิดว่า มันเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่รู้ (แต่เราเป็นคนส่วนน้อย ความรู้ด้านเทคนิคเราน้อยมากๆ จริงๆ โดยเฉพาะเหมือนเทียบกับคนแถวนี้) และที่สำคัญ ผู้รับเหมาที่ฟังเขารู้มากกว่าตา ปส. ด้วยซ้ำ (โดยเฉพาะพี่วินของเรา) เพราะฉะนั้นในความเห็นของเรา มันไม่จำเป็นต้องอธิบายมากขนาดก็ได้ เสียเวลาอ่ะ แต่ริทซ์บอกว่า เฮีย ปส. ตั้งใจพูดข่มผู้รับเหมาว่า เฮียก็รู้เหมือนกัน เพราะฉะนั้นผู้รับเหมาจะมามั่วไม่ได้นะ เออ ก็จริง เราคงต้องลองมองเฮียในแง่มุมดีๆ บ้างแล้ววะ และที่ผ่านมา เราเซ็งประชุมอันนี้มาก เรียกว่า 2 ครั้งแรกของการประชุม ถ้าเราไม่โดนพี่ณัฐบังคับ เราไม่เข้าเด็ดๆ แต่ประชุมวันนี้ เรามานั่งรอในห้องก่อนใครเลยทีเดียว

ในที่ประชุม ทุกคนให้เกียรติเฮีย ปส. มาก เพราะดูทุกคนดูตั้งอกตั้งใจฟังมาก รวมถึงพี่วิน มีแต่เราที่ทำหน้าเบื่อๆ และคอยสรุปๆ แบบว่าพยายามรวบรัดการประชุมให้จบเร็วๆ แต่พอประชุมกันไปซัก 4-5 ครั้ง เราก็เริ่มสังเกตตัวเองว่า เราไม่ค่อยเบื่อแล้วที่ต้องนั่งฟังตา ปส. พูด เพราะเราจะได้มีโอกาสแอบมองหน้าพี่วินนานๆ (และหวังว่าพี่วินจะไม่สังเกตเห็นแววตารูปหัวใจในลูกกะตาเรา ; D) แล้วเลยนึกในใจว่า คงจะได้เจอกันอีกไม่นาน เพราะพอทุกอย่า่งเริ่มเข้าที่เข้าทาง พี่วินคงไม่มาประชุมบ่อยๆ แล้ว หรือจะภาวนาให้โครงการเจออุปสรรคเยอะๆ ดีวะ พี่วินจะได้มาประชุมไปนานๆ ; p แต่ก็เหมือนโชคเข้าข้าง โครงการเจอเข็มเก่า 2 ต้น ที่ไม่ได้ปรากฎในสารบทมาก่อน แถมยังอยู่ในแนวก่อสร้างซะด้วย พี่วินบอกว่า “ก็ดีครับ มีอะไรแปลกๆ และต้องพลิกแพลงบ้าง ก็สนุกดี” เราเลยได้ทีพูดว่า “งั้นสงสัยคุณวินคงต้องมาประชุมนานกว่าที่คิดแล้วค่ะ” แล้วก็แอบปลื้มอีกว่า ดูดิ ช่างเป็นคนที่มีทัศนคติที่ดีในการทำงานจริงๆ เราเลยให้แปลกใจว่า นี่เราชอบคุณวินได้งัยวะ ก็คุณวินรูปก็ไม่หล่อ (ทานาเบ้ยังหล่อกว่าอีกอ่ะ) แถมฟันหน้าบิ่นนิดๆ อีกตะหาก เวลายิ้มแล้วดูตลกเชียว ดูเข้าท่าแค่อย่างเดียว คือ อกกว้างน่าซบ (แม้ว่าจะมีพุงกะทิขวางอยู่ก็ตาม นี่ขนาดพี่วินเป็นมังฯ นะเนี่ย...) เราเลยให้มั่นใจว่า เราชอบพี่วินที่นิสัยอะ ก็ไอ้อาการอ่อนน้อมถ่อมตน และไม่เคยพูดโอ้อวด แถมยังอธิบายงานเราอย่างใจเย็นสุดๆ ด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ตามด้วยการมีทัศนคติที่ดี ตรงไปตรงมา ไม่โกงและไม่เอาเปรียบใคร ไม่คิดเล็กคิดน้อย หรือจุกจิกกับ Cost เล็กๆ น้อยๆ เลยทำให้โรคเกลียดเช้าวันจันทร์ของเราหายเป็นปลิดทิ้ง

วันนี้ผู้รับเหมางานตู้เสื้อผ้า Built-In ของโครงการแวะเอาขนมไข่เจ้าอร่อยของป้า เอ๊ยลุงต๊อบมาให้เรา 2 กล่อง พอเลิกประชุม เราเลยแบ่งให้ PM ที่เป็นลูกน้องของพี่วิน 1 กล่อง แล้วบอกพี่วินว่า “อันนี้เป็นขนม คุณวินคงกินได้นะคะ” ; )

Sunday, November 18, 2007

Any diving day is a good day!

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเราได้ยินริทซ์คุยโทรศัพท์เรื่องไปดำน้ำที่เรือหลวงคราม เลยขอไปด้วย พอไปถึงพัทยาก็เจอเพื่อนริทซ์กับแฟนก่อน ก็คุยกันว่า พวกเราจะอยู่กลุ่มครูเตี๊ยะ เราก็คุ้นๆ ว่าเคยได้ยินชื่อนี้ที่ไหนวะ แต่ก็ช่างมันเพอะ รีบกินข้าวดีกว่า พอไปถึงท่าเรือ ก็เข้าใจว่าทำไมโลกกลม เพราะเจอตาครูอำนาจกับครูเตี๊ยะยืนต้อนรับลูกศิษย์อยู่ (เดี๋ยวนี้รุ่งเรืองเป็นครูไปซะแล้ว) แต่อำนาจบอกเราว่า ไม่ต้องเรียกครูก็ได้ เขาเขิน แต่ตาเตี๊ยะไม่ยักเขินแฮะ เรางี้ต้องตั้งสติก่อนเรียก (ยังกับตั้งสติก่อนสตาร์ทยังงัยยังงั้น) ก็เผลอจะเรียก "ไอ้" อยู่ร่ำไป

ไดฟ์แรกเป็นเรือหลวงคราม น้ำไม่แรง แต่ขุ่นโคตร เลยทำเอาเราเซ็งเล็กน้อย ใต้น้ำก็ไม่มีอะไรมากตามประสาไดฟ์ไซท์แถวพัทยา แต่ก่อนขึ้นเขาเจอปูประการังเจ๋งๆ ตัวนึง เลยฮือกันเข้ามา เราเลยไม่ได้ถ่ายรูป แถมหันมาอีกที ริทซ์ก็หายไปไหนไม่รู้ ก็ตะกี้มันขึ้นแล้วนี่หว่า เลยหากันอยู่พักนึง ถึงเห็นว่ามันลงไปไทยมุงกับเขาด้วย ลงไปตอนไหนวะ เลยลงไปลากมันตามไอ้ เอ๊ย ครูเตี๊ยขึ้นผิวน้ำ

ไดฟ์ ๒ เป็นเกาะหูช้าง เรานึกว่า เพราะแถวนี้ปลาหูช้างเยอะ แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่มี ๕ อะไรเลย แถมประการังยังน้อยกว่าไดฟ์แรกอีก น้ำก็ขุ่น เฮ้อ… แต่ก็เอาวะ ดีกว่าทำงาน พอใกล้จะขึ้น ตาเตี๊ยะก็เคาะถังใหญ่ เรารีบพุ่งไป โอ… มันคือ เต่าทะเล ตัวใหญ่ใช้ได้ แต่ความที่น้ำขุ่นมาก เรามีแต่เรากับเต๊ยะที่เห็น พอขึ้นมาบนเรือ เราเลยข่มริทซ์ว่า "เป็นงัยล่ะ Split Fin แก เวิร์คสุดๆ ไล่กวดเต่ายังไม่ทันเลย 555"

ตอนแยกย้ายกันกลับ เราเห็นอำนาจขึ้นรถไปกับแก๊งค์ ๔ ป้า (คุ้นๆ ไม๊เนี่ย -_-") เพื่อนริทซ์บอกว่า พวกนี้เขาแก๊งค์เดียวกัน เรางี้นึกในใจที่เคยได้ยินใครซักคนแซวว่า อำนาจเป็นขวัญใจแม่ยก เห็นทีจะจริง 555

ขากลับริทซ์บ่นตลอดทางว่า พรุ่งนี้วันจันทร์ เบื่อๆๆๆ แต่เรากลับรู้สึกเฉยๆ ก็เลยปลอบใจมันว่า "เอาหนะ ไม่เคยได้ยินที่เขาพูดกันเหรอว่า Any diving day is a good day!" มันเลยสงบลงได้ แต่… แต่กิจกรรมในวันนี้ของน้องริทซี่ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ไม่รู้เพราะมันกินยาบ้าไป 80 เม็ด หรือว่าอะไร เพราะพอส่งเราเสร็จ มันก็ไปเตะบอลต่อ ฮ้า…

Thursday, November 15, 2007

โลกไม่ยุติธรรม

แม้ว่าทั้ง Edward, คุณ ศ. และเราจะรวมพลังกันต้าน EMC มันก็ยังคงได้รับเชิญเข้าประมูล Sorry, it’s an unfair world! แต่ก็เอาเหอะ แค่ประมูล ไม่ได้แปลว่ามันจะได้งานนิ เราเลยประกาศก้องว่า ถ้าโครงการนี้ได้ผู้รับเหมา 3 ราย คือ BTL + EMC + TWC เราจะลาออก (ก็อ้างไปอย่างนั้นแหละ จริงๆ ไม่เกี่ยว เพราะอยากออกอยู่แล้ว) ทำเอาพี่วิลทำหน้างงๆ จนพี่ณัฐต้องรีบพูดว่า อย่าไปสนใจเรา มันเป็นแค่ความรู้สึก เราเลยต้องประกาศเจตนารมณ์อีกครั้ง หนอย… เดี๋ยวย้ายสโมสรซะเลย

แถมเวรกรรมของ Showflat กับเรายังไม่หมด ขนาดส่งมอบอาคารกับเรียบร้อยแล้ว ก็ดั๊นมามีปัญหาเรื่องกุญแจ เพราะทีมงานตาตนุทำหายไป ๒ ดอก กว่าจะควานหาตัวคนสุดท้ายที่ถือกุญแจ ๒ ดอก นั่นได้ก็แทบแย่ ที่แท้เป็นพี่รวมฤทธิ์นี่เอง พอเราถามพี่รวมฤทธิ์ว่า กุญแจอยู่ไหน พี่รวมฤทธิ์ตอบว่า "ให้คนที่สวยๆ ไปทั้ง ๒ ดอก ครับ" ทำเอาเราอึ้งไป แล้วกรูจะรู้ไม๊เนี่ยว่าคนไหน เพราะก็สวยกันหลายคนอยู่ เราเลยมุขกับตาตนุว่า "ฟังแล้วอึ้งไปเลยเหมือนกัน แต่ตอนแรกน่ะ กะสวนพี่รวมฤทธิ์แล้ว่า พี่รวมฤทธิ์ให้กุญแจกับหนิงตอนไหนเหรอคะ แต่กลัวแกไม่รับมุข เดี๋ยวจะเซ็ง แต่หรือหนิงจะประกาศหากุญแจถามเมล์ดีว่า ใครรู้ตัวว่าสวย ให้เอากุญแจมาคืนด่วน เรายินดีให้อภัย" สุดท้ายเพื่อให้เรื่องสงบ ตนุเลยซื้อกุญแจใหม่มาเปลี่ยนให้ เลยเป็นอัน Happy Ending

แต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีแฝงอยู่ ในขณะที่พี่วิลจะ Award งานให้ BTL อยู่แล้ว น้องเบนก็ท้วงขึ้นมาว่ แน่ใจแล้วเหรอ แถมต่อท้ายว่า "Working with the French, it’s like a nightmare!" แล้วเลยบังคับพี่วิลให้หาเจ้าอื่นเพิ่ม และอนุญาตให้เราเรียกฤทธามาติวเข้มได้ เย้! ดีใจจริงๆ เลย

Sunday, November 11, 2007

กิน กิน และกิน

ตอนเช้าหมูกับปุ๊กชวนไปเดินเล่น และเพราะเมื่อคืนนอนซะเต็มสตรีม เราเลยยอมตื่นไปเดิน และไม่เสียเที่ยว เพราะอากาศดีมากๆ เย็นกำลังพอดี พอกลับมาที่บ้านพัก เพื่อนๆ ปุ๊ก เขาก็ปิ้งๆ กันต่อจนไม่ต้องลงไปกินอาหารเช้าที่โรงอาหาร และในที่สุด ของที่ซื้อมาก็โดนกินไปจนหมดจริงๆ ฮ้า…

ก่อนกลับก็แวะกินข้าวกลางวันกันที่แถวๆ เขาใหญ่อีก และก็เหมือนเดิม กินกันเยอะมากๆ แต่งานนี้พี่อ๊อบขอเป็นเจ้ามือ (ขอบคุณนะคะ) แล้วก็เลยคิดเงินกัน ตอนยัยไอทีเก็บศพบอกว่า "คนละ ๖๕๐ บาท ค่ะ" เราก็อึ้งไปแป๊ปนึงว่ามื้อนี้แพงกว่ามาตรฐานเล็กน้อย แต่เอ๊ะ พี่อ๊อบเลี้ยงนี่หว่า อย่าบอกนะว่าทั้งทริป ๖๕๐ บาท โอ… พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก คราวหน้ามาเขาใหญ่กันอีกนะค๊า…

Saturday, November 10, 2007

เทศกาลบอลลูนที่เขาใหญ่

ทีแรกที่ปุ๊กชวนไปเที่ยวเขาใหญ่กับเพื่อนที่ทำงานเก่า แถมโปรโมทว่าจะได้ดูเทศกาลบอลลูนด้วยนะ เราไม่ค่อยสนใจ แต่หมูดูกระตือรือร้นอยากไปมาก แต่พออาทิตย์นี้งานน่าปวดหัวซะเหลือเกิน เราเลยเปลี่ยนใจไปเที่ยวดีกว่า สติใกล้แตกเข้าไปทุกวัน เมื่อคืนเลยเผา Minutes ถึง 3 ทุ่มกว่า เพราะตั้งใจว่า จะไม่เอางานไปทำด้วย เช้านี้เลยง่วงๆ เล็กน้อย

ทัวร์เริ่มจากการกินข้าวเช้าหน้า Egat กัน ๓ คน คือ ปุ๊ก, พี่อ๊อบ และเรา ซักพักคนที่เหลือก็มาถึง มีผู้ชายคนนึงเรียกเราว่าพี่ เรางี้ใจหายแว่บว่าทำไมเราแก่ขนาดไอ้ผู้ชายคนนี้เรียกเราว่าพี่เลยรึเนี่ย แต่พอคิดเข้าข้างตัวเองว่า มันคงรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกับปุ๊ก มันเลยต้องเรียกพี่เหมือนกัน เลยสบายใจขึ้นหน่อย (ตอนหลังปุ๊กเฉลยว่ามันเป็นน้องของนิ้ง - EC แต่ขอโทษเหอะ แต่งตัวแก่ยังกับผู้ช่วยผู้ว่า เฮ้อ…) คณะนี้เขากินกันเป็นกิจลักษณะมาก เพราะขนอุปกรณ์ทำอาหารและอาหารสดไปกันเยอะมาก จนเราสงสัยว่าที่เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้แค่ ๖ คน จริงๆ คงมีคนรออยู่ที่เขาใหญ่อีก ๒๐ คน หรือไม่ก็คงจะอยู่กัน ๗ วัน ๗ คืน ละมั๊ง แต่ปุ๊กบอกว่า คราวที่แล้ว เอาไปเท่านี้ก็กินหมด ฮ้า…

แล้วชาวคณะก็เริ่มกินอย่างเอาจริงเอาจังที่ร้านอาหารแถวๆ ตีนเขาใหญ่ เป็นร้างแบบเพิงใหญ่ๆ รสชาดดีมาก เสียแต่หากาแฟกินไม่ได้เอาเสียเลย จนเรามึนหัวไปครึ่งวัน เดชะบุญที่ได้ร้านกาแฟสดระหว่างทางขึ้นเขาใหญ่มาช่วยเหลือ ร้านนี้เหมือนคนแถวนั้นผนวกกิจการที่พักแบบ Home Stay เข้ากับร้านกาแฟ เราเลยเข้าไปดูห้องพักเผื่อเพื่อนหมู (ที่หมูจะโดยสารรถเขามาด้วย) แต่ไม่ผ่านอ่ะ กินกาแฟเสร็จ ก็ได้ฤกษ์ขึ้นเขาใหญ่ เพื่อนปุ๊กจองบ้านเก่งมาก ได้บ้าน รมต. ซะด้วย เป็นแบบ ๓ ห้องนอน มีห้องรับแขกและห้องครัว แถมระเบียงใหญ่มาก แถมบ้านก็ดูสะอาดสะอ้าน (เรายังแหยงๆ บ้านพักกรมป่าไม้ที่ดอยอินทนนท์อยู่) ที่เด็ด คือ มีกวางมายืนแถวหน้าบ้านด้วย เขาสวยเชียว เรางี้กี๊บก๊าบใหญ่จนพี่อ๊อบแกทำหน้าสงสัยว่า อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น เลยต้องรีบสงบสติ และก่อนที่จะย้วยกันไปมากกว่านี้ ก็รีบเคลื่อนขบวนไปดูบอลลูนกัน

รถเต็มลานเลย แต่บอลลูนน้อยโคตร มี ๕-๖ ลูกเองละมั๊ง ไม่เห็นจะเป็นเทศกาลบอลลูนตรงไหน มารู้ทีหลังว่าเขาปล่อยบอลลูนไป ๑ ชม. ก่อนที่พวกเราจะมาถึงกัน แต่วันนึงจะปล่อย ๒ รอบ รอบต่อไป คือ ๖ โมงเช้าของวันถัดมา เรารีบบอกให้ปุ๊กเหยียบไว้ เพราะเดี๋ยวหมูรู้เข้า เราจะต้องโดนมันอ้อนให้มาแน่นอน และระหว่างที่หมูยังมาไม่ถึง พวกเราก็กินของรอ กว่าหมูจะมาก็อิ่มพอดี แต่คณะนี้เขาเก่งกันมาก เพราะพอกลับมาที่บ้านพัก เขาก็ปิ้งบาร์บีคิวกินกันต่อ กิน, กิน และกินจริงๆ แต่เราหนีไปนอนก่อน เพราะวันนี้ตื่นเช้าไปแล้ว…

Tuesday, November 6, 2007

ฤกษ์งามยามดี

ในที่สุดก็ได้เวลาฤกษ์งามยามดี ทำพิธีเสาเข็มเอกของโครงการ ที่นี่ใช้พิธีแบบพราหณ์ เราเลยไม่คุ้น ดูผู้ดีดีเหมือนกันแฮะ งานนี้มากัยครบทั้งฝั่งโครงการและฝั่งโรงแรม แน่นอน เชฟนามผู้น่ารักของเราก็มาด้วย ลุงมาคัสก็มาเหมือนกัน เราเลยต้องเตือนตัวเองเวลาคุยกับแก เดี๋ยวเผลอตัวไปข่มเหงเพราะยังติดภาพแกเป็นผู้รับเหมาอยู่ เดี๋ยวจะซวยเอา ตอนท้ายพิธี พราหมณ์ให้เอาธูปปักตามของไหว้ เราเลยรีบเตินตามหลังเชฟ คอยปักธูปตาม ไม่ได้ชาตินี้ ขอชาติหน้าก็ได้ฮ่ะ พอปักธูปหมด ถึงได้สังเกตว่า เราพลาดไปที่ไม่ได้ปักกล้วยเลย โธ่… แล้วอย่างนี้งานจะราบรื่นไม๊เนี่ย…

เสร็จแล้วก็ย้ายไปงานขึ้นบ้าน (Showflat) ใหม่ คราวนี้เป็นพิธีพุทธ มีการเชิญพระมาสวด ระหว่างที่รอๆ กัน คุณ ชช. ก็หันมาเหน็บเราเรื่องงานช้าต่อหน้าพี่ณัฐ เราเลยบอกว่า อย่ามากดดันมาก เดี๋ยวเราลาออกไปเตะสโมสรอื่นนะ ตอนนี้มีมาทาบทาม ๒ สโมสรแล้ว ช่วงปลายปีเป็นช่วงต่อสัญญาซะด้วย ทำเอา ๒ หนุ่ม อึ้งไปเลย คุณ ชช. เลยรีบพูดว่า ถ้าเราจะออกบริษัทจริงๆ อย่าไปไหนไกล แถวๆ นี้มีงานให้ทำอีกเยอะ เลยทำเอาพี่ณัฐอึ้งกิมกี่ไปเลย เราหัวเราะใหญ่แล้วพูดว่า "โห… อย่างนี้เราก็มี ๓ สโมสรมาทาบทามแล้วดิ" แต่ในใจพูดว่า ไม่เอา หนูอยากแต่งงานมากกว่า!