Saturday, August 30, 2008

ดอนขึ้นบ้านใหม่

เมื่อวานไปคาราโอเกะเลี้ยงส่งโรส เพราะคุณน้องลาออกไปทำเกษตรพอเพียงที่บ้านที่อีสาน แต่มีคนบอกเราว่า จริงๆ แล้วที่น้องเขาลาออก เพราะเป็นห่วงพ่อ-แม่ที่แก่แล้ว แต่อยู่กัน ๒ คน ไม่มีลูกหลานคอยดูแลตะหาก อืม... มีแต่ลูกสาวแหละที่คิดได้แบบนี้ เราเลยไม่เข้าใจว่า เขาจะอยากได้ลูกชายมากกว่าลูกสาวไปทำไมกัน Anyway ก็ขอให้น้องโรสมีอนาคตที่ดีสมกับที่เป็นลูกกตัญญู และเพราะงานนี้ไม่มี ๓ ลุง มาครองไมค์ เด็กๆ เลยสนุกกันเต็มที่จนร้านปิด เราแวะส่งเด็กอีก ๒ คน ถึงบ้านเอาตี ๒ สลบเมือดทันที

เช้ามาเลยตื่นสาย กว่าจะไปถึงจุดนัด นิจก็มานั่งรถอยู่แล้ว แต่โชคดีที่ผู้ว่าฯ มาสาย เราเลยรอดตัวไปหวุดหวิด พอไปถึงบ้านหมู เขาก็จัดสถานที่กันเสร็จแล้ว กำลังนั่งรอพระกันอยู่ หมูบอกว่า วันนี้พระจะมาสายนิดนึง เพราะมีงานบุญหลายที่ เฮ้อ... รอดตัวๆ

พอถึงตอนพระประธานเริ่มสวดมนต์ ทุกคนนั่งกันเงียบ จนพระรูปที่นัดอยู่ถัดไปต้องบอกโยมๆ ว่า สวดตามด้วยครับ ตอนแรกทุกคนสวดกันเสียงเบามาก ซึ่งก็ไม่แน่แปลก เพราะดูแล้วคนที่บ้านหมูก็ไม่น่าจะถนัดการสวดกัน นิจเลยสวดซะเสียงดัง เราเลยจากปกติที่นั่งทำปากขมุบขมิบ เลยต้องสวดเสียงดังด้วย ต้องสวดให้กระหึ่มๆ พระท่านจะได้ไม่เสียใจ พอสวดเสร็จ พระก็ไปพรมน้ำมัน และเนื่องจากผู้ชายมีน้อย (คุณอุ่นกับ หห. ก็ยังมาไม่ถึง) แฟนผึ้ง (ผึ้ง-เด่น) เลยต้องมาช่วยถือขันน้ำมนต์ด้วย (มาได้ประโยชน์มากค่ะ)

พอพระกลับ ก็เริ่มชมบ้านหมูกัน หมูบอกว่า ยังไม่ได้แก้เรื่องไฟรั่วเลย เพราะเด่นแนะนำให้ไม่ได้ เราเลยพูดว่า เดี๋ยวว่างๆ จะต้องโทรไปด่าเสียหน่อย ให้เอาใบ กว. “สามัญ” ไปคืนทาง กว. เขา แหม... เสียชื่อมากค่ะ แต่ที่ขำ คือ หมูไปขโมยอิฐบล๊อคโครงการมาเรียงที่สนามข้างบ้าน เฮ้ย... คิดได้งัยฟระ แถมทำเป็นล่ำเป็นสันซะด้วย ปูได้หลาย ตรม. อยู่เหมือนกัน ฝีมือปูใช้ได้ที่เดียวเชียว วันไหนช่างของฤทธาขาด สงสัยจะต้องโทรเรียกดอนมารับจ๊อบซะแล้ว ๕๕๕...

แล้วเราต้องกลับมาทำงานต่อ เพราะเป็นเวรทำงาน แต่ง่วงโคตรๆ เลยเล่นเนทแทน เฮ้อ... สร้างสรรค์มากฮ่ะ จน ๖ โมงเย็น ก็ออกมาช้อปปิ้งต่อกับปุ๊กกับหญิง กว่าจะถึงบ้าน เล่นเอาเหนื่อยโคตรๆ พรุ่งนี้คงตื่นหลังเที่ยงเลยมั๊งเนี่ย...

Saturday, August 23, 2008

ช่างคุยครบ ๒ ปี

หงษ์จัดงาน “ช่างคุย” ครบ ๒ ปี ส่วนนึงคงอยากจะขอบใจทุกคนที่มาช่วยกันทำโดยไม่ได้สตางค์งานนี้ก็ทุกรายการล้วนแต่มีตัวแทนรายการมากันครบถ้วน พี่หมอมากันทั้ง ๒ คน เราเลยได้เจอพี่หมอหนึ่งเป็นครั้งแรก ตัวจริงสูงเชียว ผิดกับในรูปตั้งเยอะ และที่ขำ คือ เราชวนแกคุยเรื่อง House แกกลับตอบว่า ผมชอบดูละครไทยมากกว่า เพราะชีวิตทำงานเครียดมากพอแล้ว ว่าแล้วก็ไล่ละครตอนเย็นจนถึงละครหลังข่าวทั้งช่อง ๓, ๕ และ ๗ โชว์ซะเลย โอ้ว... แฟนพันธ์แท้ละครไทยจริงๆ ด้วย ๕๕๕... อย่างนี้ต้องไปเล่าให้ป้าๆ ฟังซะแล้ว จะได้ไม่เครียด

หงษ์ก็ไล่ขอบคุณทุกคนจะครบ แล้วก็เล่าเรื่องตลาด Podcast ให้ฟังคร่าวๆ เราถึงรู้ว่า นี่เราอยู่ในตลาดเดียวกับลูกชายของท่านมุ้ยเชียวหรือนี่ Almost famous จริงๆ หุหุหุ...

ป.ล. งานนี้อู๊ดไม่มา เราเลยรอดตัวจากการเผชิญหน้ากับมัน เพราะยังกลัวที่ปุ๊กไปแขวะว่ามันเรื่อง “สมถะ” แล้วมันจะมาพาลเอากับเรา แล้วเราเผลอด่าคืน จะทำเอาเสียบรรยากาศกับหมดได้

Tuesday, August 12, 2008

ลาออกดีไม๊

กลับมาอยู่บ้านเลี้ยงหลานซะหลายวัน ก็เริ่มติดใจมัน จากตอนแรกที่ตั้งใจว่าจะทำให้จบโครงการ ซึ่งจะพอดีกับที่จะผ่อนคอนโดหมดด้วย แต่ต้องทำงานเหนื่อยแทบตายห้า แล้วไม่มีมูลค่าเพิ่มอีกตะหาย เพราะสุดท้ายก็ออกมาทำเอง หรือจะทำแค่ส่งห้องตัวอย่างเสร็จดีฟระ ระเบิดที่เหยียบๆ ไว้ก็ยังไม่ทันระเบิดซะด้วย แล้วเราก็ออกมาทำงานนิดหน่อยๆ + เลี้ยงไอ้เหวินเฉียงสบายใจกว่ากันเยอะเลย...

Sunday, August 10, 2008

ขับรถกลับบ้าน

เริ่มขับตั้งแต่บ่ายวันศุกร์ ดันงกไม่ขึ้นทางด่วน จะขอใช้เส้นที่ไปรับรถ แต่ดันหลงทาง วกเข้ามาใน กทม. ซะได้ ถนนบ้าอะไรก็ไม่รู้ รถติดสุดๆ เทียนบอกว่า ไม่เป็นไร ให้มุ่งหน้านครปฐมเข้าไว้ เพราะเวลานั่งรถไฟกลับบ้านตอนเรียนหนังสือ จำได้ว่าต้องเห็นพระปฐมเจดีย์ เลยกว่าจะหลุดมาได้ก็เกือบ ๓ โมง เรานึกในใจสงสัยถึงชุมพรหลังพระอาทิตย์ตกแน่ แล้วก็เป็นไปดังคาด เราไปถึงชุมพรคาบานา เกือบ 2 ทุ่ม ทางเข้ารีสอร์ทเปลี่ยนไปมากเลย มีรีสอร์ทเล็กๆ หลายอัน และเริ่มมีคล้ายๆ บาร์เบียร์อยู่ริมหาดด้วย มีฝรั่งมานั่งประปราย นี่พวกนี้ข้ามจากภาคใต้ฝั่งตะวันตก มาฝั่งตะวันออกแล้วหรือเนี่ย

เทียนตื่นแต่เช้าไปชมรีสอร์ท ดูการทำเศรษฐกิจพอเพียง คิดไปคิดมา ก็ชักอยากทำรีสอร์ทอีกแล้ว ไม่เอาดีกว่า อย่าฟุ้งซ่าน เลยรีบออกรถต่อ เทียนบอกให้ขับเส้นใน เพราะจะได้เลี่ยงพวกรถบรรทุก เราก็ขับไปกังวลไป เลยขับแค่ ๘๐ กม.ต่อชม. กว่าจะถึงหาดใหญ่ ก็ปาเข้าไป ๕ โมงเย็น เลยต้องนอนหาดใหญ่อีกคืน เช้าวันอาทิตย์ถึงได้ถึงยะลา ตอนเปลี่ยนไปขัยรถเบนซ์กลับยะลา เราสังเกตเห็นว่ามีสติเกอร์โรงเรียนวชิราวุธติดอยู่ที่รถ เลยนึกในใจ เออ ดีที่เราเอา CRV มาใช้ ป๊ากับเทียนจะได้เอาเบนซ์มาใช้บ่อยๆ หน่อย คนบางคนจะได้สำนึกได้ว่า เขาไม่ใช่เจ้าของรถ น่าเกลียดจัง ขนาดเรา ๓ พี่น้องยังไม่เอาสติกเกอร์โรงเรียนตัวเองไปติดเลย เดี๋ยวรอให้เราลงมาอยู่ใต้เป็นการถาวรซะก่อน แม่จะลอกไอ้สติกเกอร์นี้ออกด้วยตัวเองเลยเชียว เฮ้อ...

พอถึงยะลาก็ตกใจ มีเด็กเต็มบ้านเลย เพราะแม่กับน้องสาวส่วนมาเยี่ยม ๒ สาว คลอดแล้ว ส่วนส่วนพึ่งจะท้อง เรานึกในใจนี่แค่เด็ก ๕ คน ไม่รวมในท้องอีก ๑ คน กับลูกพี่สาวอีก ๒ คน บ้านก็รกโคตรแล้ว เหยียบไปตรงไหนก็ติดเศษข้าวที่ลงอยู่ตามพื้น โอ๊ย... แต่หมะรีบแก้ตัวว่า เพราะตอนนี้ป้าที่ทำงานบ้านให้เรา เขาลาไปพยาบาลสามี บ้านเลยรกไปนิด งานนี้เราเลยต้องสวมวิญญาณแจ๋วทั้งถูบ้านทั้งล้างห้องน้ำ เหนื่อยแทบขาดใจตาย เฮ้อ...

Friday, August 8, 2008

วันเลขสวย

ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่รู้สึกว่าวันนี้เป็นวันเลขสวย เลยอยากเขียนไว้เป็นที่ระลึก เพราะต้องรออีก ๑๐๐ ปีเชียวนา ถึงจะมีโอกาสได้ลงวันที่เป็น “08-08-08” เพราะฉะนั้น วันนี้ต้องเซ็นเอกสารเยอะๆ ไว้เป็นที่ระลึกซะแล้ว อิอิ...

Thursday, August 7, 2008

Almost Famous

หงษ์โทรมาบอกว่าได้สัมภาษณ์ลงประชาชาติธุรกิจเรื่องเกี่ยวกับ Podcast เขาขอมาเองซะด้วย ไม่ได้จ้างให้มาสัมภาษณ์ เราเลยแซวว่า “โห... เพื่อนเราใกล้ดังแล้วซิ” ๕๕๕...

Saturday, August 2, 2008

AF - The Final

ได้ไปดู Concert AF รอบสุดท้ายฟรี (สปอนเซอร์โดนน้องน้ำผึ้ง ต้องขอขอบพระคุณไว้ ณ ที่นี้นะค๊า...) โดยมีข้อแม้ว่าต้องสวมบทพี่เลี้ยงน้องไทด้วย แต่ก็มิเป็นปัญหาสำหรับอิชั้นแต่อย่างใด (แต่ตอนที่รับปากหงษ์ ในใจคิดว่า ตรูจะรอดไม๊เนี่ย) เพราะน้องไทน่ารักมาก ไม่งอแงเลย พอดูเสร็จ เราบอกหงษ์ว่า ถ้าบริษัทเราจัดงานครอบครัว เราขอพาน้องไทไปด้วยนะ หงษ์หัวเราะใหญ่เลย งานนี้เราชวนหญิงกับคุณดีไปด้วย ส่วนน้องไท (หลานผู้มีพระคุณ) มีนิดหน่อยกับไอซ์ (ลูกพี่-ลูกน้อง) ไปเป็นเพื่อน น้องไทชอบ “ปั๊ม” (วีอะไร ป้าจำไม่ได้ซะล่ะ -_-“) มาก พอเห็นรูปถ่ายหน้างาน รีบปรี่เข้าไปถ่ายรูปทันที แล้วก็รีบเข้าไปในฮอล์กัน เพราะคอนเสิร์ทใกล้เริ่มแล้ว แหม... เลี้ยงง่ายจริงวุ๊

ก็เป็นไปตามที่คิดว่า ที่ ๑ ไม่มีทางเป็นผู้หญิงไปได้ น้องกู๊ดเลยตกไป ส่วนกี๋ก็แก่เกินกว่าทรูจะเอามาปั้นแล้ว เราคิดว่าถ้าไม่ใช่น้องนัททิว ก็คงจะเป็นน้องรอน เพราะถึงน้องปั๊มจะแฟนคลับเยอะ แต่ร้องเพลงเพี้ยนตลอดเวลา ถ้าได้ที่ ๑ จริง สงสัย “เดอะสตาร์” คงจะมาประท้วงกันสุดฤทธิ์ สุดท้ายก็ได้น้องนัททิว ได้รางวัลเป็นคอนโดฯ มูลค่าตั้ง 5 ล้านบาท แต่เราว่าที่ ๒ กับที่ ๓ รางวัลก็ดีมาก เป็นรถ Mazda 3 + เติมน้ำมันฟรี ๑ ปี อีกตะหาก ตอนคุยเรื่องรางวัลกันในรถ น้องไทก็พูดว่าเป็นนักร้องดีกว่าเป็นหมอ เพราะเงินดีมากเลย นั่นดิ กว่าจะได้เป็นหมอ ก็เรียนกับเกือบตาย กว่าจะใช้ทุนหมด เก็บเงินได้ ๕ ล้าน ก็คงต้องใช้เวลาอีกหลายปี มาแข่งเป็นนักร้อง วันๆ ได้เรียนร้องเพลงกับเรียนเต้น แค่ไม่กี่เดือน ก็ได้เงินเป็นล้าน แล้วแบบนี้เด็กที่ไหนจะไปตั้งใจเรียนหนังสือกัน คิดแล้วกลุ้ม แล้วอย่างนี้ประเทศเรามันจะโตไปทางไหนฟระ แค่เด็กพึ่งจบมาทำงาน เราก็กลุ้มกับทัศนคติ + โรคขี้เกียจของมันแล้ว แล้วนี่เป็น Generation ถัดไปอีก ประเทศชาติจะเป้นงัยฟระ คุณดีเลยต้องรีบตะล่อมให้น้องไทเห็นว่าเป็นหมอดีกว่าในระยะยาวอย่างงัย เลยทำให้น้องไทเกิดอาการลังเล บอกว่าจะไปปรึกษษคุณแม่ก่อนตัดสินใจ ฟังแล้วค่อยโล่งใจหน่อย เพราะตอนขามาน้องไทบอกว่า คนที่รวยมาก คือ คนที่รวยความดี (ทำเอาอาๆ อึ้งกันไปทั้งรถ) เลยคิดว่าไอ้นก (แม่น้องไท) ต้องสนับสนุนลูกให้เป็นหมอมากกว่าเป็นนักร้องแน่ ๕๕๕...