Saturday, March 28, 2009

เกือบจะม่ายขันหมากซะแล้ว

เราได้รับคำสั่งว่า ให้งดทำงานเสียงดังช่วง ๕ – ๖ โมงเย็น เพราะมีงานแต่งงานสำคัญที่สวนของโรงแรม เจ้าบ่าว-เจ้าสาวขอความสงบ ๑ ชม. พอซัก ๓๐ นาทีก่อน ๕ โมงเย็น เราก็เตือนช่างแว่นให้เริ่มเบรคงานได้แล้ว เพราะเสียงจี้ปูนกะเสียงเครนดังได้ใจดีแท้ แต่ช่างแว่นทำเป็นย่ามใจ ไม่ยอมเริ่มเบรคงาน ปรากฎว่า ๑๗.๑๕ น. แล้ว เสียงเครนก็ยังดั่งสนั่นหวั่นไหวอยู่ ในขณะที่ฝ่ายจัดเลี้ยงโรงแรมคิดว่า จะฆ่าเรายังงัยดี ก็มีพนักงานวิ่งหน้าตื่นมาบอกว่า ถ้าไม่หยุดเสียงดังอีก เจ้าบ่าวจะไม่แต่งแล้วนะ อีปร้าเลยนึกในใจว่า แหม... คุณพี่ค่ะ ไม่อยากแต่งงานก็บอกเจ้าสาวเขาไปตรงๆ ซิค่ะ อย่ามาให้อิชั้นเป็น “แพะ” ดิ แต่คิดอีกที ไม่ได้ๆ เราต้องทำบุญกะเจ้าสาว จะได้มีโอกาสเป็นเจ้าสาวกะเขาบ้างในชาตินี้ เลยต้องออกคำสั่งเฉียบขาด เสียงก่อสร้างเงียบลงในบันดล เจ้าบ่าว-เจ้าสาวเลยได้กล่าว “I do.” ท่ามกลางความเงียบและสงบ และสายตาอาฆาตของชาวโรงแรมที่มองมาที่เรา เฮ้อ... เกือบไปแล้วไมละคะคุณเจ้าสาวค๊า นี่ถ้าไม่ได้อีปร้า ก็ไม่ได้แต่งงานแล้วนา เหอๆๆ...

Wednesday, March 25, 2009

Noriko






ในที่สุดก็ต้านทานตัญหาในใจไม่ไหว น้องบลายธ์มาเข้าฝันทุกคืน อาทิตย์ที่แล้วเราเลยตะลุยเสริช์ตุ๊กตาบลายธ์จนได้ตัวที่ราคาพอสู้ได้มา ๑ ตัว แถมไหว้วานให้พี่แตนช่วยหิ้วมาให้ งานนี้เลยต้องสงบศึกกันชั่วคราว ไว้รอให้อีปร้าได้ตุ๊กตาก่อนเต๊อะ... เหอๆๆ... อาทิตย์ก่อนเราเลยยอมไปร้านตะวันแดงกะเฮียด้วย ตอนแรกเฮียทำเป็นรีบกลับ เพราะจะรีบไปโทรหาเมีย เลยโดนพี่ณัฐกับ PK ให้ยืมมือถือไปโทรหาเมีย พอโทรเสร็จ คราวนี้เลยยาวเลย เพราะเฮียชอบเพลงลูกทุ่งที่มีหางเครื่องออกมาเต้นมาก ขอรอดูอีกเพลงตลอด แถมถ่ายวีดีโอไว้ด้วย กว่าจะกลับก็ปาเข้าไปเกือบ ๕ ทุ่ม ส่วน ๒ วัตถุไม่ได้ไป (พี่ณัฐยืนยันมากว่า ๒ สาวนี้ไม่ใช่คน เราเลยตกลงเรียก ๒ สาวว่า “วัตถุ” เพราะอีก category นึงก็ไม่ใช่แน่นอน) เพราะมีนัดแล้ว ซึ่งตรงตามใจพี่ณัฐเป๊ะ สงสัยงานนี้ต้องมีอีกรอบเพื่อสร้างความสัมพันธ์

วันนี้เราเลยต้องเร่งให้พี่ณัฐเลิกประชุมเร็วๆ หน่อย เพราะเห่อของเล่นใหม่ เลยโดนคนในห้องประชุมแซวว่า ให้พี่ณัฐรีบประชุม เพราะบางคนต้องรีบกลับไปล้างขวดนม ส่วนบางคนก็ต้องรีบกลับไปเล่นตุ๊กตา ฮ่าๆๆนกบอกว่า เราควรทีชื่อให้ตุ๊กตาด้วย แล้วคุณเธอก็เสนอชื่อตัวเองมา เราว่าก็น่ารักดี เลยตกลงที่จะตั้งชื่อเธอว่า “โนริโกะ” และทริปแรกของโนริโกะ ก็คือ ปราณฯ แหม... ตื่นเต้นจังเลย...

Wednesday, March 11, 2009

คนมันว่าง

เอ๋มาฟ้องเรื่องน้าหมึกว่าโดนบังคับให้เซ็นใบลาออก เราฟังแล้วอึ้งไปเลย เดี๋ยวนี้ไอ้ ปส. มันบ้าขนาดนี้เลยเหรอ แต่ที่เราปรี๊ดแตก คือ เรื่องที่ไอ้อี๊ดไปด่าแม่ site engineer ของผู้รับเหมา อีป้าเลยทนไม่ได้ล่ะ จัดการเมลล์ไปฟ้องพี่ด๊อกเตอร์ที่ สนง. ใหญ่ทันที แต่เอาที่ละเรื่อง เอาเรื่องน้าหมึกก่อน เราว่าแกก็ทำงานพอใช้ แถมนิสัยก็นอบน้อมมาก เดินผ่านเราทีงี้ก้มซะหน้าแทบถึงหัวเข่า และก็ดูจะเข้ากับทีมเราได้ดี เราเลยเมลล์ไปให้พี่ด๊อกเตอร์ฟังคร่าวๆ พร้อมฝากว่า ให้น้าหมึกแกอยู่ไปก่อนจนกว่าจะได้งานใหม่ แต่ก็นั่นแหละมันคงอีกนานเลยล่ะ เพราะเศรษฐกิจแบบนี้ก็ไม่มีใครเขาขึ้นโครงการใหม่ๆ กัน แต่เราก็เตือนน้าหมึกไปกว่า ให้อดทนให้มาก เพราะถ้าน้าหมึกไม่ออก ก็คงโดนตา ปส. ด่าช้าด่าเย็น น้าหมึกแกก็ไม่มีทางเลือกอะไรมาก เลยรับปากเรา

ตอนเช้าน้าหมึกกับตา ปส. ก็เข้าออฟฟิสไปด้วยกัน ตอนบ่ายกลับมา เราก็เดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะน้าหมึกหน้าบานมาเลย ส่วนตา ปส. หน้าเครียดมากกกกก เห็นแล้วขำมาก ฮ่าๆๆ เราเลยอาศัยจังหวะที่ไอ้ ปส. จ๋อยๆ นี่แหละ สังคายนามันซะทีเดียว โดนการเรียก ตา ปส. มาบอกว่าให้ไปตักเตือนไอ้อี๊ดว่า ห้ามพูดจาไม่สุภาพแถวนี้ ขนาดโอนเนอร์ยังพูดจาดีกว่ามัน ๕๐๐ เท่า ให้สำนึกซะบ้าง และถ้ามีอีก อิชั้นจะให้ผู้รับเหมาชกปากมัน เรื่องราวจะได้แดงมาจนถึงอิชั้น และอิชั้นจะได้ทำจดหมายตัดเตือนมันไปยัง สนง. ใหญ่ของมันด้วย และขอถือโอกาสนี้ให้ตา ปส. อธิบายให้มันเข้าใจด้วยว่า อิชั้นมีอำนาจอะไรบ้าง สามารถสั่งการ หรือ overwrite งานอะไรได้บ้าง ทำเอา ตา ปส. นิ่งไปเล็กน้อย อีป้าเลยซ้ำไปอีกดอกว่า “เออ ที่คุณสั่งห้ามลูกน้องไปกินข้าวกับผู้รับเหมาน่ะ อี๊ดมันไม่เชื่อฟังนะ แต่อันนี้หนิงไม่ถือ เพราะหนิงกินข้าวกับผู้รับเหมาบ่อยๆ อันนี้แค่มา FYI” ก่อนจะฮุคขวาว่า “ได้ข่าวว่าคุณโดนจดหมายเตือนจาก สนง. ใหญ่เหรอคะ” ตา ปส. รีบแก้ตัวใหญ่ อีปร้าเลยพูดยิ้มๆ ว่า “ไม่สงสัยเหรอคะว่าหนิงรู้ได้งัย ที่รู้เพราะว่าไอ้อี๊ดคนโปรดของคุณนี่แหละ หนิงไม่รู้ว่ามันซื่อ (หรือโง่) รึป่าวที่ไปด่าน้าหมึกเสียงดังว่า เป็นเหตุให้คุณโดนจดหมายเตือน ตอนนี้เขารู้กันไปหมดทั้งไซท์แล้วนะ คุณไปบอกให้มันสงบปากสงบคำดีกว่า” ตา ปส. ก็พยายามจะแก้ตัวหนักเข้าไปอีกว่ายังไม่โดนอย่างโน้นอย่างนี้ เราเลบตัดบทว่า “หนิงไม่อยากรู้ว่าคุณจะโดนหรือไม่ และหนิงก็ไม่มีหน้าที่ไปพูดจาแก้ต่างให้คุณด้วย ธุระหนิงมีแค่นี้ค่ะ” แล้วก็ลุกจากไปอย่างมีความสุข แถมที่สำคัญ ตกบ่ายเห็นไอ้อี๊ดโดนเรียกเข้าห้องเย็นไป ๒ ชม. ฮ่าๆๆ สะใจจริงๆ

ปล. ผู้ว่าฯ บอกว่า เราอาจโดนกรีดรถได้ อันนี้เราก็หนาวๆ อยู่ แต่ไม่กลัวเฟ้ย ฮ่าๆๆ