Wednesday, November 29, 2006

พิธีกรรับเชิญ

เราลองอัดเทป Pod Cast ร่วมกับเจ้าของรายการ "ช่างคุยกับสถาปนิก" ซึ่งมีชั้ยกับต๊ะเป็นพิธีกรหลักอยู่ หงษ์ให้เราร่วมแจมเป็นพิธีกรรับเชิญ โดยเราจะร่วมอัดรายการจากภูเก็ตโดยการโทรผ่านโปรแกรม Skype แต่เอาเข้าจริง มันไม่ค่อยเวิร์ค เลยต้องกลับมาตายรังที่โปรแกรม MSN Messenger ก็สนุกดี แต่ที่น่าปวดหัวคือ จะหาหัวข้อและทำสคริ๊ปให้มันน่าสนใจได้ยังงัย เพราะมันไม่เหมือนรายการ "คุยคุ้ยเต่า" หรือ "ไม่หลับไม่นอน" ที่มีลักษณะของแฟนคลับที่ชัดเจนกว่า อืม… ต้องคิดมากๆ หน่อยล่ะ…

พออัดรายการเสร็จ เราก็โทรหาเกี๊ยกอีกครั้งเพื่อจะถามว่า ตกลงมารับเราได้หรือป่าว เพราะเหตุการณ์ดูอันตราย แต่เกี๊ยกก็ยืนยันว่ากลับได้ ซึ่งเราคิดว่าเราถามผิดคน เพราะปกติเกี๊ยกก็ไม่กลัวเหตุการณ์พวกนี้อยู่แล้ว ก็เฮียยังออกไปตะลอนๆ ข้างนอก กลับบ้านดึกๆ-ค่ำๆ เป็นประจำ ผิดวิสัยชาวบ้านคนอื่นเขามาก เลยตกลงใจว่าจะกลับเหมือนเดิม แล้วยิ่งเทียนส่งรูปลูกชายมาให้เราดู เรายิ่งอยากกลับบ้านใหญ่เลย ก็เหวินเฉียงมันน่ารักเอามากๆ เลยนี่นา…

Sunday, November 26, 2006

บทส่งท้ายเจ้าชายในดวงใจของสาว Desperate

เราไล่เปิดทีวีทุกช่องกะดูข่าวงานถวายปริญญาแด่เจ้าชายจิกมี่ฯ ของ ม.รังสิต ซึ่งก็สมใจ เพราะออกอากาศทุกช่องในช่วงข่าวในพระราชสำนัก (อันนี้เราตั้งข้อสังเกตว่า คนไทยชอบท่านมากๆ เพราะจริงๆ ท่านมาเป็นแขกของรัฐบาล ก็น่าจะออกข่าวท่านในช่วงข่าวรัฐบาลอะไรประมาณนี้มากกว่า) และท่านได้กล่าวสุนทรพจน์ที่คนไทยฟังแล้วคงปลื้มท่านมากขึ้นไปอีก ท่านบอกว่า ประเทศอื่นต้องหา Role Model จากแหล่งต่างๆ ซึ่งบางทีก็เป็นชาวต่างประเทศ แต่คนไทยโชคดีมากๆ เพราะมี Role Model เป็นคนไทยและยังทรงเป็นในหลวงของคนไทยอีกด้วย ในหลวงทรงเป็นเพชรในเพชร (Diamond in Diamond - แปลซะตรงแน๋วเลยเรา -_-") เราฟังแล้วปลื้มสุดๆ นั่นสิ คนไทยจะรู้ไม๊นะที่ตัวเองโชคดีขนาดไหน (อืม… เจ้าชายฯ ทรงเป็นนักการทูตที่เก่งมากๆ คนนึงเลยนะเนี่ย…) ว่าแล้วช่อง ๕ ก็เช็คเรทติ้งของเจ้าชายฯ โดยการสำรวจสวนภูฏานที่งานราชพฤกษ์ ปรากฎว่ามีคนเข้าชมเยอะมาก จนต้องจัดคิวเข้า โอ้! และในสวนโครงการหลวงคนก็ล้นหลาม ทางสวนฯ ก็ช่างเอาใจคนไทย โดยการเอาภาพเจ้าชายฯ ตอนเสด็จโครงการหลวงเมื่อ ๒ ปีก่อนมาแสดงไว้ให้ดูด้วย อืม… ไปงานราชพฤกษ์คราวนี้ นอจากสวนภูฏาน, สวนเนเธอร์แลนด์ (ภาวนาให้ดวงทิวลิปมันอยู่ถึงเวลานั้นด้วย สาธุ!), สวนปาล์มขวด และหอคำหลวงแล้ว อีกที่ที่เราจะต้องไปย่อมต้องเป็นสวนโครงการหลวงแน่นอน!

ดูข่าวจบเราก็โทรไปหาเทียนถามเรื่องงานเมทัลลิคที่เฮียเกี๊ยกจะไป แล้วเลยบอกเทียนว่าเราจะกลับบ้านวันศุกร์หน้า แต่เทียนบอกว่าอย่าพึ่งกลับเลย เพราะตอนนี้มีข่าวลือว่าวันเสาร์ที่ ๒ ธันวาจะเป็นวันปักธงแบ่งดินแดน! เฮ้ย! อะไรกัน เฮียเกี๊ยกอุตส่าห์จะไปส่งเราที่บ้านแล้วนะ ทำไมอุปสรรคมันเยอะงี้วะ เราเลยต้องโทรไปหาแจ้เช็คข่าวซะหน่อย ปรากฎว่าข่าวนี้จริง! แต่แจ้บอกว่าให้เรากลับเหมือนเดิม เพราะเฮียเกี๊ยกอุตส่าห์จะมาส่งเราถึงบ้าน แถมแซวว่า ให้เราเอา Passport กลับบ้านด้วย เพราะถ้ามันเกินแบ่งแยกดินแดนขึ้นมาจริงๆ เราจะได้ใช้ Passport ในการกลับประเทศไทยจากสาธารณรัฐปัตตานีได้ เฮ้ย! นี่มันต้องฝ่าดงระเบิด-เอาชีวิตเข้าแลกขนาดนี้เลยหรือนี่ นึกไม่ถึงจริงๆว่าเราจะ Desperate ขนาดนี้… เฮ้อ...

หงษ์เสนอว่า ถ้าเราหลอกเกี๊ยกให้มาขับรถเราจากภูเก็ตไปยะลาได้สำเร็จ ก็ให้แกล้งทำรถเสียระหว่างทาง จะได้ใช้เวลาด้วยกันนานๆ เราเลยแถมว่า งั้นขอให้ฝนตก-ฟ้าแลบ-กระท่อมร้าง-ตุ๊กแกร้องด้วยเลยดิ จะได้ครบสูตร แถมยุทธบอกว่า ไหนๆ แล้ว ก็ให้ใช้ "ยาเลิฟ" เลย สนุกกว่า "ยานอนหลับ" เป็นกอง แต่ หห. บอกว่า ให้ตัดส่วนตุ๊กแกร้องออกไป เพราะเดี๋ยวเฮียเกี๊ยกเกิดตกใจแต๋วแตกขึ้นมา แล้วเราจะเศร้า เออ… เอากันเข้าไป… -_-" นี่อิชั้นซีเรียสนะยะ

Saturday, November 25, 2006

ตามหาเจ้าชาย

หลังจากไปหาหนังสือ The Crown Price of Phutan อยู่พักใหญ่ที่ซีเอ็ด ก็มาได้ที่ B2S ในแผงมีหนังสือเกี่ยวกับเจ้าชายฯ ประมาณ ๕ เล่ม เราก็ยืนอ่านจบครบทุกเล่ม สุดท้ายก็ตัดสินใจเอาเล่มเดิมที่ตั้งใจจะซื้อของค่ายมติชนเหมือนเดิม กำลังคิดว่าจะหยิบยังงัยให้เนียนๆ ดี (เขินเหมือนกันนะเนี่ย) ก็มีคุณป้าคนนึงเดินมาหยิบหน้านิ่งๆ เลย ๓ เล่มรวด แบบไม่ต้องพลิกดูอีกตะหาก แต่เราก็ยังเขินอยู่ดี เลยเอาหนังสือโยคะเพิ่มอีก ๑ เล่ม วางไว้ข้างบนหนังสือเจ้าชายฯ ตอนจ่ายเงิน ค่อยยังชั่วหน่อย พอกลับมาบ้านก็เห็นบทสัมภาษณ์ ดร. อาทิตย์ในทีวีเกี่ยวกับเจ้าชายฯ ดร.อาทิตย์บอกว่า ควรเรียกว่าเจ้าชายในดวงใจ แทนเจ้าชายในฝัน เพราะเจ้าชายฯ เป็นเจ้าชายในใจของหลายๆ คน ทุกเพศ-ทุกวัย อืม… ก็ดีนะ : )

Friday, November 24, 2006

เจ้าชายในฝันเสด็จงานราชพฤกษ์

ต้องยอมรับว่าในชั่วโมงนี้ไม่มีใครจะเป็นขวัญใจหญิงไทยได้มากกว่ามงกุฎราชการเจ้าชายจิกมี่ เคเซอร์ นัมเกล วังชุก (โฮ… เขียนได้ด้วยนะเนี่ย…) อีกแล้ว เห็นได้ชัดจากการที่ท่านเสด็จงานราชพฤกษ์ เพราะวันที่ท่านเสด็จกลายเป็นวันที่มีผู้เข้าชมงานสูงสุด แถมข่าวในพระราชสำนักก็ออกอากาศข่าวท่านนานมาก (นับว่าเข้าใจป้าๆ ทั้งหลายโดยแท้) ในขณะที่ ม. รังสิต ก็เกาะกระแสได้เร็วมาก ถือโอกาสนี้ถวายปริญญาท่านในวันที่ ๒๖ พฤศจินี้ อีกตะหาก (ซึ่งจริงๆ เราว่าน่าจะถวายกษัตริย์จิกมี่ฯ มากกว่า ในฐานะที่ท่านเป็นผู้คิดเรื่อง GNH แต่ก็นั่นแหละ ในยามนี้กระแสเจ้าชายในฝันมาแรงสุดๆ หยุดไม่ได้จริงๆ) อย่างนี้เราก็ต้องมานั่งเฝ้าหน้าจอทีวีตอน ๒ ทุ่มแล้วนะสิ ; D

Wednesday, November 22, 2006

กินฟรีอีกแล้ว

จู่ๆ นกโทรมาว่ามาถึงภูเก็ตกับจิ๋มแล้ว (เรานึกว่ามันไม่มาแล้วนะเนี่ย เพราะเห็นหายเงียบไป) เลยพากันไปกินฟรี (อีกแล้ว) ที่โกอ่าง หงษ์เลยยืนยันความคิดเราว่า ใช่ หมู่นี้เราสองคนกินข้าวเย็นฟรีบ่อยจริงๆ แถมยังแซวว่า เราเหมือนอยู่กรุงเทพฯ เลย เพราะกินข้าวเย็นกับเพื่อนเกือบทุกวัน เราเลยเสริมว่า ใช่ และตั้งแต่มาอยู่ภูเก็ต พึ่งจะมีอาทิตย์เดียวเองที่อยู่คนเดียวไม่ได้ออกไปไหน เพราะมีเพื่อนมาบ้าง เราไปกรุงเทพฯ บ้าง กลับบ้านบ้าง ไม่ว่างตลอด เลยคิดว่าเราน่าจะอยู่รอดได้ครบ ๖ เดือน ซึ่งเราก็ตั้งใจว่า จะอยู่ให้ครบปี สู้ๆ!

เพราะพรุ่งนี้ชาวคณะหงษ์, บอย & กานจะกลับแล้ว คืนนี้เลยได้ฤกษ์สัมภาษณ์ศิษย์เก่าอังกฤษ หลังจากเลื่อนมาหลายรอบ ก็ขำๆ ดี เราเลยเปิดประเดิมโดยการทิ้งทุ่นระเบิดของศิษย์เก่าประเทศต่างๆ ไว้ว่า ในบรรดา Alumni ทั้งหมด เราว่าอังกฤษไฮโซสุด เย้ๆ

หงษ์บอกว่า Hit Rate Podcast เทปเราตอนนี้ปาเข้าไป ๘๐ Hits แล้ว ^_^ เย้! ลุ้นแทบแย่ กลัวจะไม่ถึง ๒๐ Hits จะแย่ แต่พอฟังเทปหนังจีนของอู๊ดกับกานแล้ว เราว่าเรทติ้งน่าจะแซงของเรา เพราะขำจะแย่ โดนเฉพาะตอน "หลองเลา" ของอู๊ด ขำสุดๆ ซึ่งก็ดีเพราะหงษ์จะได้มีกำลังใจทำรายการต่อไป : )

Tuesday, November 21, 2006

ศิษย์เก่าสตรีวิทยฯ

หงษ์ชวนไปกินข้าวกับตั้วที่ครัวสะปำ เราไม่รู้จักเหรอตาต๊งตาตั้วเนี่ย แต่เราอยากไปกินครัวสะปำล้างตา แล้วก้อเผื่อได้เพื่อนเพิ่ม เลยรีบไป ปรากฎว่าตั้วเป็นรุ่นน้องเราที่ลาดกระบัง เขามากับแฟน (ภรรยา) มาซื้อกิจการร้านไอติม โฮ… มาไกลขนาดนี้เลยรึเนี่ย คุยไปคุยมา มันก็ถามว่าเราจบ ม. ต้นที่ไหน เราข้าวเต็มปากอยู่ตอบไม่ทัน มันเลยถามเองตอบเองว่า "สตรีวิทยฯ ใช่ไม๊พี่" เรางี้ขำก๊าก ใครๆ ก็คิดว่าเราเป็นศิษย์เก่าสตรีวิทยฯ เพราะวันก่อนปุยโทรมาให้เราช่วยดูงานให้ ก็แนะนำตัวว่า "พี่หนิงจำปุยได้ไม๊คะ ปุยที่เป็นรุ่นน้องสตรีวิทย์ฯ ค่ะ" ซึ่งก็ว่ากันไม่ได้ เพราะรอบๆ ตัวเรามีแต่ชาวสตรีวิทยฯ นี่นา… อ้อ มื้อนี้ ตั้วเลี้ยงโดยให้เหตุผลว่า นานๆ มาที เราเลยพูดว่า ไม่เป็นไรหรอก เพราะหมู่นี้เรากับหงษ์กินข้าวฟรีบ่อยมาก แต่สุดท้ายเรากับหงษ์ก็ได้กินฟรีอีกตามเคย ; p

Sunday, November 19, 2006

ได้นอนลากูน่าแล้ว

บอยกับกานมาฉลองฮันนีมูนครบรอบ ๑๐ ปี (โห... อิจฉาวะ) โดยมีหงษ์เป็นพลขับขับรถลงมาให้ คราวนี้ ๒ คน พักที่ลากูน่าซึ่งกานได้ซื้อ Time Sharing ไว้ แต่คราวนี้พิเศษหน่อยตรงที่กานอัพเกรดห้องเป็นแบบ ๒ ห้องนอน เราเลยขอไปนอนด้วยแบบไม่เกรงใจ เพราะยังแค้นอยู่ที่คราวที่แล้วพลาดการใช้ facility ฟรีอันนี้

แต่ก่อนอื่นเรากับหงษ์ตกลงจะเลี้ยงข้าวเที่ยงบอยกับกานที่แหลมหินคืนบ้าง เพราะเมื่อวานบอยกับกานก็เป็นเจ้ามือเลี้ยงเรากับหงษ์ที่ลากูน่าแล้ว คราวนี้หงษ์พาออกไปกินที่กระชัง ชื่อ กระชังครูสุวิทย์ อร่อยดี ไม่แพงด้วย นี่ถ้าเราไม่พลาดท่าสั่งไอ้กั้งเสือบ้านั่นมา จะดีกว่านี้มาก แถมยังสั่งกันเป็นกล่องข้าวน้อย สุดท้ายเลยต้องห่อกั้งกลับไป แต่แล้วก็ไม่ได้เลี้ยง เพราะสองคนนั่นไม่ยอม เราเลยรู้สึกผิดหน่อยๆ ที่เป็นคนสั่งกั้ง สงสัยพรุ่งนี้ต้องกินแซนวิชกั้งชดใช้ซะแล้ว…

บ่ายๆ สามคนไปว่ายน้ำกัน ส่วนเราดูทีวีอย่างเมามัน เลยชักเคลิ้มๆ อยากทำ Time Sharing กับเขาบ้างล่ะ แต่พอฟังราคาจากหงษ์แล้วก็ช็อคไปเลย รอซื้อแพคเกจในงานไทยเที่ยวไทยต่อไปเรื่อยๆ ดีกว่า ว่าแล้ว ก็ขอขอบคุณบอยกับกานผู้มีพระคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ปล. เนื่องจากดิฉันทำงานก่อสร้างมาตลอดชีวิต ไปไหนมาไหนอดไม่ได้ต้องคอมเม้นท์บ้านเรือน-อาคารชาวบ้านเขาตลอด เลยขอคอมเมนต์วัสดุของ Laguna Holiday Club ซะหน่อย ให้ของถูกเชียว ปูกระเบื้องสีขาวธรรมด๊าธรรมดา (แบบแกรนิโต้ยังไม่ยอมให้เลย) ขนาด 30x30 ซม. ในห้องนั่งเล่นได้งัยเนี่ย ห้องน้ำก็สุดแสนธรรมดา ใช้กระเบื้องรุ่นเดียวกับ Tai-Tan Court เลย ก็อย่างว่าเขาขายเซอร์วิสนิ แต่จะว่าไปเราก็ชอบนะ เขาเข้าใจใช้เงินดี เหมือนเชอราตันที่กระบี่เลย (ช่างผิดกับลุง Ed จริงๆ)

Wednesday, November 15, 2006

วิศวกรหญิงออกอากาศแล้ว

โหลดมา ๒ วัน แต่พึ่งจะได้ฟัง แต่เรารู้สึกว่าเสียงจะน่ารักไปหน่อย (จริงๆ มันออกจะตะแง๊วเกินไปตะหาก) ฟังแล้วเสียงไม่เหมือนเราเลย หมูแซวว่า รูป Sexy มาก ซึ่งก็เป็นรูปที่เราคาดไว้ (เราส่งไปให้หงษ์เลือก 3-4 รูป) ต่อไปก็ต้องคอยลุ้นว่าอัตราการโหลดจะเป็นเท่าไหร่ กลัวไม่ถึง ๑๐ โหลดจัง -_-"

Thursday, November 9, 2006

เป็นป้าแล้วเรา

ส่วนคลอดลูกแล้ว เอาฤกษ์หมอสะดวก (อยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นงี้ มีหมอก็บุญแล้ว อย่ามากเรื่อง ไม่งั้นเชิญใช้บริการหมอตำแยได้ -_-") แล้วก้อบังเอิญเป็น 911 ซะด้วย และแล้วมันก็เป็นเด็กผู้ชายจริงๆ ด้วย (ไม่หลอกพ่อ-หลอกแม่มัน เรากลัวน้องอยากได้เด็กผู้ชายเกินเหตุ เลยแซวให้มันทำใจไว้ว่า ในภาพอัลตร้าซาวด์นั่นอาจเป็นสายสะดือ หรือไม่ไอ้กันดั้มอาจจะเอานิ้วไปวางหลอกไว้ก็ได้) หนักตั้ง ๓.๓ กก. แน่ะ เทียนบอกว่า ตัวชมพู๊… ชมพูเชียว เราเลยกลายเป็นป้าเต็มตัว ว่าแล้วก็ message ไปบอกลุงเกี๊ยกซะหน่อย อิอิอิ… แต่วันนี้ยะลามีระเบิดโชว์รูมรถตั้ง ๘ ที่ เราเลยชักไม่แน่ใจว่า วันนี้จะเป็นวันดี แต่ก็เอาเถอะ ไม่ใช่วันโจรอย่างที่ลงใน นสพ. เมื่อ ๒ วันก่อนก็คงจะใช้ได้แล้วล่ะ

ป๊าขอเป็นคนตั้งชื่อจีนของหลานชายคนแรก โดยให้ชื่อว่า สื่วเหวินเฉียง เพราะอยากให้รุ่นหลานเป็น series "เหวิน" แล้วยกตัวอย่างว่า ดูลูกแจ้คนที่ ๒ สิ ก็ชื่อ "เหวินเยี่ยน" แต่จริงๆ แล้วป๊าดูจะคิดช้าไปนิดนึง ก้อหลานสาวคนโต ด.ญ. ถิ่งเหว่ยมันชิงแหกโค้งไปแล้วนิ anyway เราเลยแซวเทียนว่า อย่างนี้ถ้าเจอเด็กผู้หญิงชื่อ ฉิงฉิง เมื่อไหร่ ก็ต้องจัดการหมั้นให้ไอ้เหวินเฉียงไปเลยดิ เพราะถือได้ว่าเป็นเนื้อคู่กันแน่ๆ ส่วนชื่อไทย เทียนเป็นคนตั้ง ให้ชื่อว่า ด.ช. ปองคุณ เก้าเอี้ยน มาจากหมายปองคุณธรรม เราเลยภาวนาให้มันไม่เปลี่ยนเป็น หมายปองคุณผู้หญิง หรือหมายปองคุณผู้ชาย ไปในที่สุดหรอกนะ ส่วนชื่อเล่น ก็เรียกว่า "คุณ" ไป (เลยอดชื่อ "กันดั้ม" เลยหลานเรา)

Sunday, November 5, 2006

ลอยกระทง

ตอนแรกกะจะเบี้ยว แต่เปลี่ยนใจ เพราะกลัวโรสจะเซ็ง เลยโทรตามกัน แล้วตกลงว่าจะไปลอยกันที่กะรน ก่อน แล้วค่อยไปเที่ยวต่อที่ฉลอง ลอบกระทงในทะเลก็ได้อารมณ์ไปอีกแบบ... แต่น่าเสียดายที่ฝนตก เลยกลับกันเร็ว จะว่าไป เราก็ทำตัวกลมกลืนใช้ได้ เพราะทีอยู่กรุงเทพฯ ไม่สนใจเทศกาลลอยกระทงนี่เอาซะเลย (ตั้งแต่เรียนจบอ่ะนะ) พอมาอยู่ ตจว. ปุ๊ป รีบทำตัวกลมกลืนไปเที่ยวเลยเชียว… เขินจัง…

ปล. เราคิดว่าเราควรจะส่งรูปนี้ไปให้ไอ้เติร์ดดูดีไม๊ เพราะคราวที่แล้วเราส่งรูปเดี่ยวเราไปให้ มันประชดว่า "เจ้น่าจะทำบุญด้วยรองเท้า จะได้ถ่ายรูปคู่กับเขาบ้าง" เพราะยังงัยเสีย นี่ก็จัดว่าเป็นรูปคู่ ถึงแม้จะเป็นรูปคู่ผู้หญิงก็เหอะ ก็เป็นรูปคู่อยู่ดี -_-"

Saturday, November 4, 2006

ชาวพลัสมาภูเก็ต

หลังจากที่พูดกันอยู่หลายปีในเรื่องการมาเปิดตลาดที่ภูเก็ตแข่งกับ Broker ต่างชาติ ในที่สุดชาวพลัสฯ ก็ตัดสินใจมาซะที เราเลยต้องรีบตามไปรับใช้ เที่ยวนี้พลัสฯ มาเซ็นสัญญาเช่าที่ มากัน ๖ คน มีพี่ตุ๊ก, พี่กูล, นก, จิ๋ม, โจ และ Andy (ฝรั่งที่พึ่งมาทำงานกับพลัสฯ และจะมาเป็น ผจก. สาขาภูเก็ต) แล้วก็ไปดูโครงการโน่นนี่ เราเลยได้อาศัยใบบุญดูโรงแรมอมันปุรี (แต่ตลกดูห้องเจ้าชายจิกมี่ฯ ไม่สำเร็จ ; p) กับ The Chedi ด้วย อิอิ... แล้วก็ไปกินข้าวกันที่ร้านโกดำ ที่อยู่แถวๆ แยกกระทู้กัน ซึ่งเป็นร้านที่คุณยง Recommend เราเลยมั่นใจว่า อร่อยแน่นอน โดยไม่ต้องขอ Confirm กับน้าอินก่อน แล้วก็อร่อยจริงๆ ด้วย ไม่แพงอีกต่างหาก แล้วพอพูดถึง"บุญ" พี่กูลก็บอกให้เราจีบบุญซะเลย แต่เราไม่จีบหรอก ก็เราชอบคนปั้นน้ำเป็นตัวมากกว่านิ อิอิอิ… : D

Wednesday, November 1, 2006

พึ่งจะรู้ว่ามีเพื่อนเป็นไฮโซกับเขาด้วย

วันนี้กินข้าวกลางวัน แล้วคุณซาฟียะห์ (แม่ค้าที่เราฝากชีวิตในมื้อกลางวันไว้เกือบทุกวัน) เปิดทีวีให้ดู ปรากฎว่าเป็นรายการ Glossip Hi-So ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์ไฮโซสาวคนนึง แต่ที่ทำให้เราตะลึงตึงๆ คือ ผู้ชายที่ยืนข้างๆ สาวเจ้าตะหาก เพราะชายผู้นั้น คือ อ.ปั๊ม! งานนี้ถึงรู้ว่า อ. ปั๊มเป็นไฮโซจริงๆ นะเนี่ย แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ผู้หญิงคนนั้นหน้าไม่ยักเหมือนผู้หญิงที่เราเจอพร้อม อ.ปั๊ม ที่เซ็นทรัลพระราม ๓! จบข่าว!