Friday, September 28, 2007

ไทยแลนด์โอเพ่น

พี่ณัฐชวนเราไปดู Thailand Open แถมใจดีให้เราชวนหมูไปด้วย (เพราะบัตรหมูต้องดูไกลโคตร แบบว่าเห็นนาดาลตัวเท่ามด) แต่พี่แกดันดูวันผิด หมูเลยเกือบจะอดไป แต่โชคดีที่พี่ณัฐเซ็งและรู้สึกไม่ค่อยดี สุดท้ายแกเลยตัดใจยกบัตรให้เรากับหมูไปดูกัน ๒ คน แทน เย้!

รถติดอิ๊บอ๋าย ฝนก็ตก ไปถึงที่จอดรถก็เต็มอีก แต่โชคดีที่ข้างทางมีที่จอด พอเราจอดรถเสร็จ คุณยามก็มาไล่ไม่ให้จอด ในขณะที่ก่อนหน้าเราจอดกันทั้งถนนยาวพรืด เรากำลังเจราจาต่อรองอยู่ ก็โชคดีมีรถคันนึงมาจอดถามทางยาม เราเลยอาศัยจังหวะวิ่งหนี แต่ให้หวั่นๆ ใจว่า แล้วตรูจะโดนล็อคล้อไม๊ฟระ แต่ก็ช่างมัน สายมากแล้ว เดี๋ยวหมูรอเงกพอดี

คนมาดูเทนนิสน้อยกว่าที่เราคิดว่า คงเป็นเพราะมันยังเป็นรอบต้นๆ มั๊ง แต่ถึงงั้นก็เหอะ คนดูน้อยขนาดนี้ ใครเขาจะมาจัดงานกันให้เจ๊งทุกปี เราว่าอีกไม่นาน สิงห์คงเลิกจัด ยิ่งเป็นช่วงขาลงของภราดร แถมจะแต่งงานอีกตะหาก แล้วที่นี้เฮียจะชวนสาวที่ไหนมาสร้างความฮือฮาเรียกคนดูล่ะ แต่บรรยากาศในสนามดีอ่ะ ได้อารมณ์ไอ้ที่เสริฟ์กันเป็น ๑๐๐ กว่าไมล์ต่อชม. มาก มันเฟี้ยวได้ใจจริงๆ แหม… นี่ถ้าได้นั่งแถวหน้าสุด คงดีไม่น้อย… และนี่ขนาดเราไม่รู้จัก ๒ คนที่มาตีนะเนี่ย ยังดูสนุกมากๆ เลย แต่น่าเสียดายที่มือถือแบตหมด เราเลยไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ แต่หมูทนไม่ได้ ออกไปหยิบกล้องที่รถกลับมาถ่าย เราเลยตั้งใจว่าจะไปขอบัตรพี่ณัฐมาดูอีก หรือไม่ก็ปีหน้าถ้าเบียร์สิงห์ยังเป็นสปอนเซอร์รายการนี้ เราต้องหน้าด้านไปขอบัตรจากเจื้อยซะแล้ว ก็มันดูสนุกมากๆ เลยจริงๆ นะ…

พอเลิก กลับมาเอารถ ก็ให้ลุ้นเล็กๆ แต่ก็เป็นไปดังคาด รถไม่โดนล็อคล้อ น่านอะดิ เป็น รปภ. นะ ไม่ได้เป็นตำรวจซะกะหน่อย ขืนมาล็อคล้อป้า ป้าเอาตายแน่ เฮอะ!

Sunday, September 23, 2007

ก้าวไปอีกขั้น


จู่ๆ ปุ๊กก็นำเสนอว่า แก๊งค์ ญสรด. ของเราน่าจะเปลี่ยนสถานที่ไปพักผ่อนจากโซนภูเก็ต-กระบี่ เป็นที่อื่นๆ บ้าง แถมจะอัพเกรดห้องพักอีกตะหาก แล้วก็เฉลยว่า อยากไปพัก Sila Evason Pool Villa ที่สมุย ราคาไม่แพงมาก แค่คืนละ 12,000 บาท เท่านั้น เราฟังแล้วอึ้งไปเลย ชีก้าวไปอีกขั้นจริงๆ เลยอ้อมแอ้มว่า ให้ชั้นเงินเดือนเท่าแกก่อนละกัน แล้วก้อนึกขำๆ ที่ริทซ์มันบ่นว่า เราชอบไปพักที่แพงๆ เออ... มันเป็นไปตามวัยและฐานะจริงๆ ด้วย

อาทิตย์นี้แสนสิริมีเปิดตังโครงการแถวประชาชื่น แต่ที่สำคัญ คือ มีการจ้างเจนนิเฟอร์ คิ้ม มาร้องเพลงโชว์ นกเลยมาลากเราไปเป็นเพื่อน พอไปถึงก็ไปดูคลับเฮ้าส์สไตล์ภูฏานก่อน (ให้ตายเหอะ กระแสภูฏานแรงจริงๆ นะเนี่ย...) นกบอกว่าราคาตั้ง ๑๐๐ ล้านบาท เชียวนะ เราว่ามันก็สมราคา เพราะดูสวยดี เลยถ่ายรูปไปอวดคนที่ไซท์ซะหลายใบ แล้วก็อดรู้สึกทึ่งๆ ฮองเฮาไม่ได้ว่า ชีก็ทำงานได้เก่งมากนะเนี่ย ไม่เสียฉายาฮองเฮาในทุกด้านจริงๆ พอเดินออกมาเจอซือ ซือบอกว่า คลับเฮ้าส์ราคา ๑๒๐ ล้านตะหาก พอซักพักแมนโทรมาพอดี แมนบอกว่า ต้องไปดูคลับเฮ้าส์ให้ได้นะ เพราะราคาตั้ง ๑๔๐ ล้าน เราเลยแซวว่า พอถึงพรุ่งนี้มันจะราคา ๒๐๐ ล้าน ป่าวะ และสงสัยว่าต่อไปว่า อีกหน่อยมันคงราคา ๑,๐๐๐ ล้าน เป็นแน่ -_-“

คอนเสิร์ทป้าคิ้มก็สนุกดี เสียงเพราะมากๆ (ไม่แปลกใจเลยที่ป้าท้อป-ดารณ๊นุชแซวว่า ป้าคิ้มเป็นหุ่นนกเพนกวินแต่เสียงเป็นนกไนติงเกล) แถมเป็น Entertainer ที่ดีมากๆ ดูไป-ฮาไป ป้าก็มีความสุข ลวนลามหนุ่มๆ ลูกบ้านไปหลายคน เลยคิดว่าอาการแบบนี้จะเป็นไปตามวัย อีกหน่อยเราคงเผลอลวนลามน้องเอกอ่ะ 555...

Thursday, September 20, 2007

อยากแต่งงาน

กำลังประชุมกันอยู่ได้ยินเสียงโห่ขันหมาก คนในห้องประชุมงงๆ กันอยู่แป๊ปนึง ก็มีคนเฉลยว่า วันนี้มีการจัดพิธีแต่งงานที่อีกห้องนึง เราว่าน่ารักดี ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินเสียงโห่ขันหมากในโรงแรม ๕ ดาว แบบนี้ แถมจัดงานในห้องที่มีสวนสวยๆ แบบนี้ด้วยแล้ว ยิ่งบิ้วอารมณ์อยากแต่งงานของเราขึ้นไปอีก -_-“ แต่คนที่ตื่นเต้นมากๆ คือ Edward มันหันมาบอกเราว่า ไม่เคยเห็นพิธีแต่งงานแบบไทยๆ มาก่อน คุณ ชช. เลยรีบลาก Edward ไปดูงาน แถมนำเสนอว่า พิธีรดน้ำสังข์สนุกมาก การันตีขนาดที่ว่า “Believe me. I’ve done it twice!” ทำเอาเรางงๆ คิดว่าแปลผิด จนพี่ณัฐหันมาบอกว่า เราเข้าใจถูกแล้ว ฮ้า! แล้วกลับมาแซว Edward ว่า ไหนๆ ก็ดูงานแล้ว ถ้ามันแต่งงาน มันต้องจัดพิธีแต่งงานแบบไทยด้วยนะ แถมต่อด้วยเรื่องความสามารถในการใช้ภาษาไทยของ Edward เพราะมันต้องต่อราคากับผู้รับเหมาไทยบ่อยๆ Edward อ้อมแอ้มว่า พูดได้นิดหน่อย ตาคุณ ปภ. เลยแซวมุขโบราณว่า แบบนี้ต้องใช้ Long Hair Dic. แต่ก็ยังขำกันทั้งห้องประชุม -_-“ ขนาดพี่วิลยังรับมุขว่า แบบนี้ไอก็หมดสิทธิ์เก่งภาษาไทยนะซิ บรรยากาศประชุมวันนี้เลยมื่นชื่น ไม่เคร่งเครียดเหมือนทุกที อยากให้เป็นแบบนี้บ่อยๆ จัง...

Wednesday, September 19, 2007

ชื่นใจ ; )

เชฟแนมตอบมาว่า

Thank you for your email, I heard of the flooding in Garden area, sorry about that.
Have a nice day anyway.
See around.

แค่นี้ก็ชื่นใจแล้ว พึ่งสังเกตว่า แกใช้ reply ไม่ได้ reply all สงสัยกลัวเลขาฯ จะเข้าใจผิด แต่ที่แน่ๆ เฉลิมพรคิดไปไกลถึงขั้วโลกเหนือแล้นนนนนน… : )

Tuesday, September 18, 2007

ลืมมือถือ(อีกแล้ว)

ไปแจ้งย้ายเข้าคอนโดฯ ดีที่มีประสบการณ์มาก่อน เลยให้แจ้แฟกซ์สัญญาซื้อ-ขายฉบับกรมที่ดินมาเพิ่มเติมด้วย และก็เป็นดังคาด มันต้องใช้จริงๆ เราเลยไม่ไปเสียเที่ยว แต่ก็ยังอุตส่าห์มีเรื่องให้ตื่นเต้นจนได้ เพราะเราดันให้ปลอกมือถือกับตาตนุไป เราเลยต้องเอามือถือใส่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เพราะกลัวหน้าปัดลาย (ต้องรีบให้หมูทำปลอกมือถือให้ซะแล้ว) ก่อนไปเขตฯ ก็แวะเข้าห้องน้ำที่โรงแรมซะหน่อย แต่ก็กลัวว่าจะทำมือถือตกส้วม เลยเอามันออกมาวางไว้บนโถ แล้วก็ดันลืมไปในที่สุดจนได้ พอนึกขึ้นได้ ก็โทรมาถามที่โรงแรม โชคดีที่โรงแรมเก็บไว้ให้ แต่โชคไม่ค่อยดี คือ เป็นช่วงตาเอกเข้ากะพอดี เราเลยโดนจับได้ว่าไปแอบใช้ห้องน้ำ่ำโรงแรม แล้วก็ต้องแอบเอาสำเนาบัตรประชาชนไปให้ทางโรงแรมเพื่อยืนยันการรับ ที่ต้องแอบให้ ก็เพราะว่า กลัวตาเอกจะจับได้ว่าป้าแก่มากแล้ว… เฮ้อ…

ริทซ์กลับมาทำงานแล้ว เราเลยทวง Magnet ที่ฝากซื้อ ปรากฎว่า มันบอกว่าหาสวยๆ ไม่ได้เลย (ให้หาสัญลักษณ์ออสเตรเลียค่ะคุณน้อง มันจะหายากขนาดนั้นเลยเหรอคะ อย่างน้อยๆ Magnet รูปจิงโจ้ก็น่าจะมีขายดาษดื่นนะคะ ลืมก็บอกมาเหอะ ป้ารับได้) สุดท้ายมันเอา Magnet รูปโครงกระดูกมาให้ เราเล็งๆ ก็ไม่ให้ว่ามันจะเป็นตัวแทนออสเตรเลียตรงไหน พี่ณัฐบอกว่า ก็เป็นโครงกระดูกชาวอะบอระจินิสงัย เออ… ก็พอถูไถได้วะ ตอนนี้ไอ้ Magnet โครงกระดูกชาวอะบอระจินิสที่ว่าก็เลยมาติดอยู่ที่ตู้เย็นเราแบบดูสยองขวัญเล็กน้อย…

Monday, September 17, 2007

โลกาวินาศ ๑

ที่ตั้งชื่อว่า "๑" เพราะเราคาดว่าจะมีหลายครั้ง เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกหนักมา (ตกตอนไหนวะ ถ้าเราจะหลับลึกมาก ไม่ได้รู้สึกเล๊ยว่าฝนตกหนัก) ทำให้เช้านี้

๑) น้ำท่วมไซท์ และแน่นอนว่า บ้านคุณเบนซึ่งอยู่ในตำแหน่งต่ำสุดของไซท์ท่วมด้วยแน่นอน (ที่มีตั้ง ๗ ไร่ ทำไม๊… ทำไมบ้านเจ้าของโรงแรม + เจ้าของโครงการ ต้องอยู่ตรงนี้ด้วยวะ)

๒) น้ำรั่วเข้ามาที่ห้องทำงานคุณเบน (เป็นไปตามสัจธรรมที่ว่า เมื่อคนเราเริ่มซวย ความซวยจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ) ซึ่งพึ่งแก้ปัญหาน้ำรั่วจากหลังคาไปเมื่อเดือนที่แล้ว คราวนี้รั่วเข้ามาทางหน้าต่าง

๓) น้ำรั่วที่บ้าน C1 ซึ่งพึ่งซ่อมน้ำรั่วไปเมื่อเดือนที่แล้วที่ด้านหลัง คราวนี้รั่วด้านข้าง สงสัยไดเรทเตอร์โรงแรมที่ทำงานอยู่ในนั้น คงเซ็งเราน่าดู ดาดฟ้างี้เจิ่งน้ำซะ จนเราโดนโอนเนอร์ประชดว่า "นี่ถ้าลูกผมมาเห็น คงจะชอบน่าดู คงจะกระโดดน้ำเล่น-ว่ายน้ำสนุกไปเลย" โอ๊ย… เจ็บค่ะ

และ ๔) ยังค่ะ ยังไม่หมด ไหนๆ เราก็รับผิดชอบงาน ๔ จุด มันต้องรั่วให้ครบทุกจุดซิ แน่นอน sale office ก็ต้องรั่วด้วย อันนี้ยิ่งเลวร้ายใหญ่ เพราะพึ่งซ่อมเสร็จไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง เปลี่ยนฝ้าไป ๓ รอบ แล้วนะ เฮ้อ… ตรูจะได้ปิดงานเดือนนี้ไม๊เนี่ย…

แต่ ๕) หลังจากที่ซวยเรื่องงานจนครบทุกจุด วิ่งไป-วิ่งมาจนเหนื่อยซก เดินจ๋อยๆ กลับมาที่ออฟฟิส คุณแม่บ้านแววดาวก็มาบอกเราว่า รถคุณหนิงยางแบนค่ะ เฮ้ย… อะไรกันวะ พอไปดูใกล้ๆ ก็เห็นตะปูคาอยู่ที่ข้างล้อรถ เอ๋บอกว่า ตะปูทิ่มอย่างนี้ ปะยางไม่ได้ มันจะอันตราย ให้เปลี่ยนยางเลย เราเลยต้องรีบขับรถไปเปลี่ยนยางก่อนที่มันจะแบนจะไม่สามารถขับไปอู่ได้ ก็หมดค่าเปลี่ยนยางไปแค่ ๑,๖๕๐ บาท เท่านั้นเองค่ะ เฮ้อ… สงสัยว่า ถ้ามีแฟน แฟนคงบอกเลิกวันนี้ด้วยมั๊ง ให้หมดสุดๆ ไปเลย!

ก่อนกลับบ้าน เราเลยตอบอีเมลล์เชฟแนมที่เขียนมาขอบคุณเราเรื่องกุญแจบ้านว่า เราไม่สบายดีอย่างที่คุณเชฟคิดหรอก (เชฟแนมเขียนว่า Trust that you are well) เพราะเราเจอเรื่องข้างบนเข้าไปตั้ง ๔ เรื่อง ขอร้องละว่า No more bad news, please!

Sunday, September 16, 2007

ไปกินกุ้ง

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์ไปกินกุ้งแม่น้ำแถวบ้านหญิง พวกเรานัดเจอกันที่บ้านหญิงก่อน เราเลยบอกหมูก่อนว่า แม่หญิงผมร่วงหมดแล้ว อย่าตกใจล่ะ พอไปถึง ภาพไม่น่ากลัวอยากที่คิด และแม่หญิงก็ดูปกติมากๆ ช่างคุยเหมือนเดิม และเดินไป-เดินมาตลอด แถมยังเตรียมตัวออกไปทำงาน (ดูที่) อีกตะหาก ช่างเป็น Super Mom ผิดกับแม่เรากับแม่นิจจริงๆ

แล้วก็ออกไปกินกุ้งแม่น้ำที่ร้านริมน้ำกัน ๔ ป้า ระห่ำกินกุ้ง ๔ ตัว ราคา ๑,๘๐๐ บาท (ไม่รักกันจริง อาจมีตบฐานพาเพื่อนไปกินของแพงโคตร) แต่มันก็อร่อยจริงๆ นะ เอาไว้จะมากินอีก (ก็เป็นหญิงโสดรายได้ดีนิค่ะ) แถมยังถ่ายรูปไปอวดเก๋ด้วย อิอิ…

ระหว่างที่รอหมูแต่งตัวไปงานแต่งงานที่คอนโดเรา ก็เปิดทีวีดู มีข่าวด่วนแทรก เป็นข่าวเครื่องบินของวันทูโกตก ช่อง ๗ บอกว่า มีคนตาย ๗๐ คน แต่ช่อง ๓ ซึ่งเสนอข่าวหลังช่อง ๗ ๒๐ นาที บอกว่า บาดเจ็บ ๘ คน นี่ตูจะเชื่อช่องไหนดีเนี่ย สุดท้ายก็เป็นว่า ช่อง ๓ การข่าวแย่มากถึงมากที่สุด จะว่าไปก็นึกเสียวๆ นี่ถ้าวันก่อนเราซื้อวันทูโกไปภูเก็ต ป้าๆ (ก็รวมทั้งตัวเราด้วย) จะกล้าไปกันไม๊เนี่ย… เป็นที่แน่ๆ เราคงไม่กล้านั่งโลว์คอสไปอีกนาน… และจะต้องจับตาดูว่า คนจะเอาไฟล์ทนัมเบอร์มาแทงหวยกันรึป่าว…

Saturday, September 15, 2007

เรียนจบซะที

เสาร์นี้เอาการบ้านมาส่ง แล้วทำข้อสอบเล็กน้อย แล้วก้อถ่ายรูปรับประกาศนียบัตร ทางหลักสูตรเลยเอาแบบสอบถามมาให้ทำ มีข้อนึงเขาถามว่า อยากจะเชิญใครมาเป็นวิทยากร นกดันใส่ชื่อเราซะนิ เราเลยแซวว่า จะให้ทางหลักสูตรเขาเชิญกรรมกรหญิงมาเป็นวิทยากรรึงัย เราก็หัวเราคิกคักกัน จนไอ้ผู้ชายที่นั่งข้างเราทนไม่ได้ หันมาเบรคเรากับนกทุกช๊อตไม่ว่าเรา ๒ คน จะพูดเรื่องอะไรกันก็ตาม (เราว่าไอ้เสือเก๋ก็ตรงๆ แปลกๆ แล้วนะ ไอ้นี้เหมือนเป็นพี่ช่ยเก๋เลยวะ) มันช่างขวานผ่าซากมาก จนเรากับนกเลือดไหลเป็นทาง และสรุปกันว่า จะไม่พูดกับมันอีกแล้ว มันก็ยังหันมาเหน็บเรากับนกอีก สงสัยงานนี้ต้องตบแล้ววะ แล้วเลยแอบเม้าท์กันว่า สงสัยมันจะเป็นคนที่แอบชอบรัตน์ พอตอนเบรค ก็ออกมาเล่าให้รัตน์ฟังกัน เราบอกว่า แปลกๆ แบบนี้รัตน์น่าจะชอบ ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะถูกใจรัตน์จริงๆ ฮ้า…

รับประกาศฯ เสร็จเที่ยง เราก็กลับมาหลับอย่างเอาเป็นเอาตาย เพราะเมื่อคืนทำการบ้านถึงตี ๔ ครึ่ง ส่วนนกไม่ได้นอนเอาเลย เพราะก่อนหน้านี้มัวแต่เอาเวลาไปดูซีรียส์หนังจีนชุด เออ เอากับมัน ทำยังกับจะสอบ ป.ตรี แต่อาร์ตน่าเกลียดว่า เพราะหลับเอาจริงเอาจังตั้งแต่อยู่ในห้องเรียน จนเราแซวว่า ที่ลุง CSI เขาฝากๆ เรื่องกับเหล่าสถาปนิกไว้ อาร์ตคงรับฝากมาได้แค่ ๒ ข้อ อาร์ตเลยบอกว่า เมื่อคืนไม่ได้นอนเลย เพราะต้องทำการบ้านให้นายด้วย แถมเป็นคนดี เลยทำ ๒ เล่มไม่เหมือนกันอีกตะหาก มิน่าล่ะ นายอาร์ตมาแบบหน้าตาผ่องใสมาเชียว มีลูกน้องเอาถ่านก็ดีอย่างนี้เองนะเนี่ย…

ชั้ยเมลล์มาบอกว่าหลวงพี่จะแต่งงาน ซึ่งเราตัดสินใจได้เลยว่าไม่ไป ก็ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่จบเตรียมฯ และเราว่าไอ้หลวงพี่ก็ไม่ได้ยินดีที่พวกเราจะไปงานมันนักหรอก ถ้าต้องไปงานเพื่อนๆ เราเลือกไปงานไอ้เย้ยเปิดร้านใหม่ที่นครสวรรค์ดีกว่า ได้ข่าวว่ามีให้น้องกระแตมาอาบน้ำโชว์ซะด้วย สงสัยว่างานนี้ เพื่อนๆ คงไปกันเยอะแน่ๆ เลย Anyway ก็ขอให้เปิดร้านใหม่ กิจการรุ่งเรือง ขายดิบ-ขายดี รวยยิ่งๆ ขึ้นไปนะจ๊ะ…

Thursday, September 13, 2007

อุปสรรคความรักของหมู

เรากำลังประชุมอยู่ แล้วหันไปเห็นมือถือมี 2 missed call เบอร์เดียวกัน เลยโทรกลับ แต่กลายเป็นว่า เหมือนอีกฝ่ายจะงงๆ ที่เราโทรหลับ เราเซ็งมากที่ไอ้หมอนี่พูดไม่รู้เรื่อง เลยทำเสียงเข้มไปว่า "ก็คุณโทรมา" เขาเลยทำเสียงเข้มกลับว่า "คุณต่างหากที่โทรหาผมก่อน ตอนนี้ผมอยู่ต่างประเทศ" เราเลยขอโทษแล้ววางสาย แล้วก้อมานึกสังหรณ์ใจว่า ชะรอยนังน้องริทซี่ของเราจะเอามือถือคุณพ่อมาโทรหาเราแน่ (เพราะมันเคยบอกว่ามันไม่ได้เปิดโรมมิ่ง) เราเลย sms ไปถาม ปรากฎว่า ใช่จริงๆ ด้วย โห… อย่างนี้คุณพ่อก็เจอฤทธิ์ว่าที่ลูกสะใภ้ไปเต็มๆ เฮ้อ… แย่เลยเรา…

พอเย็นก็รีบไปกินข้าวกับสาวๆ คราวนี้อ้างกันว่าเป็นวันเกิดนิจ แต่เราดันไปทำหญิงสับสน หญิงเลยไปร้านเดอตูผิดสาขา (ต้องขอโทษจริงๆ) เราเลยถือโอกาสเล่าให้ป้าๆ ฟังว่า หมะติดตามเรื่องพี่โก๊ะโกะ และจะให้ป๊าไปทาบทามเกี๊ยกให้เรา แต่นั่นก็ไม่น่าสนใจเท่า หมูมาเล่าเรื่องไปดูตัว ฮ้า… แต่เป็นความโชคร้าย(หรือโชคดี???)ของไอ้หมอนั่นที่ทำงานอยู่ที่การรถไฟฯ แถมใส่ปริญญา + คุณสมบัติต่างในนามบัตรให้ยาวพรืดไปหมด เลยโดนปุ๊กโจมตีสุดฤทธิ์ เฮ้อ… รักนี้ของหมูมีอุปสรรคซะล่ะ… ; D

Saturday, September 8, 2007

โดนจิก

เสาร์นี้เป็นเสาร์สุดท้ายของการเรียน ทุกกลุ่มต้องมีการ Present เราขี้เกียจพูด (จริงๆ เป็นเพราะไม่ได้เตรียมตัว เลยไม่ค่อยมั่นใจ) เลยพยายามโยนไปให้พี่อาวุโส ๒ คนในกลุ่มเป็นคนพูด แต่คนในกลุ่มไม่ยอม เพราะกลุ่มก่อนหน้าเรา Present กันไม่ครบทุกคน คนที่ไม่ได้พูด จะโดนลุง CSI จิกถามคำถาม ซึ่งจะดูน่ากลัวกว่ามาก แต่เราบอกว่า ไม่กลัว จะจิกก็เชิญ แต่สุดท้ายก็ต้านทานคนอื่นๆ ในกลุ่มไม่ได้ เลยต้อง Present กับเขาด้วย เราเลยเลือกหัวข้อที่เราถนัด นั่นคือ การตรวจสอบโครงสร้าง แต่ก็มิวายโดนลุง CSI จิกถามจนได้ มีประชดเราอีกตะหากที่เราไม่ค่อยมีความรู้ด้านวิศวกรรมโยธา แต่ก็เดชะบุญ เนื่องจากไฟฟ้าดับเมื่อกลางวัน เลยทำให้การ Present เลื่อนมาจนสาย(ค่ำ) อาจาร์ยหัวหน้าหลักสูตรเลยกระโดดเข้าห้ามการจิก แต่ลุง CSI ก็ไม่ฟัง เราเลยโดนจิกไป ๒ ที พอแกจะจิกครั้งที่ ๓ อาจารย์หัวหน้าหลักสูตรเลยต้องห้ามอย่างเอาจริงเอาจัง ลุง CSI เลยงอน เลิกถามทุกคน เราแอบเห็นคนที่เหลือถอนหายใจด้วยความโล่งอกกันหมด โธ่โว้ย… ทำไมตรูต้องเป็นคนสุดท้ายที่โดนจิกด้วยวะ แต่ก็เอาเหอะ ดิฉันอโหสิให้

การ Present เสร็จเอาเกือบ ๓ ทุ่ม เฮ้อ… ดีใจจัง ในที่สุดก็เรียนจบซะที แต่ที่น่าเสียใจ คือ เราจะอดกินของอร่อยๆ แล้วนะซิ แถมกำลังเม้าท์กับไอ้น้องนกอย่างเมามันซะด้วย เลยต้องเป็นอันจบการเม้าท์แต่เพียงเท่านี้ เพราะด้วยเนื้องาน คงจะได้เจอกันยาก… เฮ้อ… เสียดายจัง…

Friday, September 7, 2007

หลักด่าน

ตานิโคลัสมาถามว่าเราจะลาออกเหรอ ทำเอาเรางงเต๊ก ทำไมเราไม่รู้เรื่องวะว่าเราจะลาออก เราเลยแกล้งถามว่า ยูเอามาจากไหน มาจากณัฐพล-นายชั้นรึป่าว ทำเอาตานิคอึ้งไป ซักพักก็บอกว่า โทษที เฮียจำผิด จริงๆ แล้วเป็นแฟนเก่าเราตะหากที่จะลาออก เราเลยบอกว่า พี่ฐากูรก็ยังไม่ออกโว๊ย ข่าวยูนี่มั่วจริงๆ เลย แล้วมันก็กลับไปทำงานต่อ ซักพักนึงตาเต่าตนุก็โทรมาหาเรา บอกว่าตานิคให้มาทาบทามตัวไปทำงานด้วย ถ้าเราคิดจะเปลี่ยนงานจริงๆ อะนะ (ยัง ดูมัน… ยังไม่เลิกอีก) เราเลยบอกว่า "คุณนิคจะสู้เงินเดือนไหวเลยคะ ต้องจ้างหนิง ๖ หลัก แล้วนะคะ" ตนุอึ้งไปนิดนึงแล้วพูดว่า "อย่างคุณมีหลักเดียว ก็ "หลักด่าน" งัยครับ" แล้วก็วางหูไป เราก็งงๆ แต่ก็ต้องรีบเผา minutes เลยไม่ได้สนใจอะไร แต่พอพิมพ์ชื่อผู้เข้าประชุม เราก็ถึงบางอ้อ ที่แท้ก็… "นายตนุ หลักด่าน" ผู้นี้นี่เอง… -_-"

Monday, September 3, 2007

FUJI แปลว่าปลาแซลมอน

เรานั่งปั่น Minutes อบ่างเมามัน แต่พอมุกมาก็ต้องเลิก มันเห็นเรากำลังใช้คอม เลยมานัวเนีบด้วย จิ้มคีย์อีมั่วซั่วไปหมด แต่ก็ให้บังเอิญว่า มุกพิมพ์ FU เราเลยสอนให้มุกพิมพ์คำว่า FUJI แล้วก็ถามมุกว่า รู้ไม๊ว่า FUJI แปลว่าอะไร มุกบอกว่า FUJI แปลว่า ปลาแซลมอน! เรากับเทียนนี่ฮาเลย เทียนบอกว่า ถ้าอีกหน่อยเราถามเหวินเฉียงว่า FUJI แปลว่าอะไร มันคงตอบว่า แปลว่า ข้าวหน้าหมูทอด เพราะพ่อกับแม่มันไม่มีเงินสั่งปลาแซลมอนให้กินหรอก 555...

บ่ายแก่ๆ เกี๊ยกก็แวะมาเยี่ยม แต่หมะกำลังฟอกไต เลยคุยกันได้นิดเีดียว แต่เราสังเกตว่าหมะาดีใจมากเลยที่เห็นเกี๊ยก หมะให้เราออกมาคุยกับเกี๊ยกนอกห้องฟอกไต แต่มุกเกิดรักเรามาก พัวพันไม่เลิก แจ้เลยนั่งคุยกับเกี๊ยกแทน แล้วก็คุยกันใหญ่เลย ประหนึ่งเราเป็นพี่เลี้ยงเด็ก คุณนายกำลังรับแขกอยู่ ก่อนกลับ เกี๊ยกสารภาพว่าไม่มี “แฮกิ้น” มาฝากเราตาม Request แต่ซื้อลูกไหนมาให้แทน หมะบอกว่าป๊าชอบกินมาก สงสัยเกี๊ยกจะได้แต้มบวกไปอีกหลายคะแนนแบบไม่ได้ตั้งใจ เรางี้นึกในใจ นี่ถ้าเราไฟเขียว ป๊าคงไปขอเกี๊ยกให้เราแน่ๆ เลย...

Sunday, September 2, 2007

ญาติเยอะ

อาการหมะดูดีขึ้นมาก สงสัยเพราะกำลังใจดีขึ้นมาด้วย ก็มีคนมาเยี่ยมหลายคณะซะจนไม่ได้นอนตอนบ่าย ส่วนมากับที่บ้าน เอาเหวินเฉียงมาด้วย เราเลยได้อุ้มมันแป๊ปนึง แจ้มาแอบบ่นว่า มากันเยอะไปแล้ว น่าจะไล่กลับไปบ้าง แถมอาอี๊บางคนมาอยู่ทั้งวัน มาตั้งแต่เช้า ออกไปกินข้าวเที่ยง แล้วกับมาเม้าท์ต่อ แต่ถ้าจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่า พวกอี๊ๆ มาเมาท์แต่เพียงฝ่ายเดียว เพราะหมะพูดไม่ทันอี๊เลย ขนาดตอนคุณหมอถามอาการคนไข้ พอแม่เราอึกอัก อี๊ก็ช่วยตอบแทนซะนิ จนหมอต้องพูดว่า ให้คนไข้ตอบเอง เราเลยนึกในใจ ใช้ได้เลยค่ะคุณหมอ แล้วเลยสบายใจมากขึ้นที่ได้คุณหมอคนนี้เป็นเจ้าของไข้ เลยตั้งใจว่า พรุ่งนี้ค่อยถามรายละเอียดกับคุณหมอ เพราะวันนี้คนเต็มห้องไปหมด แถมของเยี่ยมไข้ก็เต็มไปหมด ได้รังนกมาหลายแพ็ค งานนี้น้องมุกมีความสุขมาก เพราะได้กินรังนกแบบเมามันชนิดไม่ต้องเกรงใจเงินพ่อ-แม่ (แจ้บอกว่าปกติให้กินอาทิตย์ละ 2 กระป๋อง เพราะมันแพง) แต่เราละเซ็ง เพราะโดนหมะบังคับให้กินสก๊อต

อู๊ดโทรมาบอกว่า จะแวะมาเยี่ยมค่ำๆ หน่อย จะได้ไม่ต้องมาชนกับญาติๆ เรา เราเลยบอกให้มันซื้อเต้าทึงเจ้่าอร่อยมาให้กินด้วย เทียนขำใหญ่บอกว่า ไม่ได้กินหร๊อก เราเลยบอกว่า ถ้าอู๊ดมาพร้อมด้วยเต้าทึง เราจะขอมันแต่งงาน แล้วค่ำนั้น อู๊ดก็มาพร้อมด้วยเต้าทึง 2 ถุง...

Saturday, September 1, 2007

กลับบ้านด่วน

พอเรียนเสร็จ เราก็รีบกลับบ้านโดยมีตาอู๊ดมารับที่สนามบิน มันเห็นเราจ๋อยๆ เลยแซวเรานิดหน่อย และบอกว่า คุณหมอเจ้าของไข้เป็นคุณหมอที่เชี่ยวชาญโรคไตโดยเฉพาะ เก่งที่สุดในหาดใหญ่แล้ว เคยรักษาญาติอู๊ดจนหาย เราเลยค่อยรู้สึกดีขึ้นมานิดนึง แต่พอเราเห็นหมะแล้วเราตกใจมาก เพราะหมะดูแก่ไปมาก เทียนบอกว่าเมื่อวานดูน่ากลัวกว่านี้อีก นี่ฟอกไตแล้วดูสีหน้าหมะดีขึ้นเยอะแล้ว ก็หวังว่าอาการหมะจะดีขึ้นเร็วๆ แต่ที่น่าตกใจ คือ ต่อไปหมะจะต้องฟอกไตอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ไปตลอดชีวิต เราเลยยิ่งตกใจว่าทำไมมันปุ๊ปปัปอย่างนี้ 2 อาทิตย์ก่อนแม่เรายังดูแข็งแรงอยู่เลย แต่หมอก็พูดให้กำลังใจว่า ถ้าคนไข้ดูแลอาหารการกินดีๆ อาจจะลดเหลืออาทิตย์ละครั้งก็ได้ เราเลยนึกในใจ สงสัยต้องเที่ยวมันตั้งแต่สาวๆ วะ ถ้าแก่ตัวไป ถึงจะมีเงินและมีเวลา สังขารก็อาจจะไม่อำนวย และที่สำคัญเราต้องเริ่มกินน้ำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว เพราะที่ผ่านมากินน้ำน้อยมากๆ (แบบว่าขี้เกียจไปฉี่) แต่ก็ต้องดูกันไปว่าเราจะทำได้ซักกี่น้ำ...