ทัวร์เริ่มจากการกินข้าวเช้าหน้า Egat กัน ๓ คน คือ ปุ๊ก, พี่อ๊อบ และเรา ซักพักคนที่เหลือก็มาถึง มีผู้ชายคนนึงเรียกเราว่าพี่ เรางี้ใจหายแว่บว่าทำไมเราแก่ขนาดไอ้ผู้ชายคนนี้เรียกเราว่าพี่เลยรึเนี่ย แต่พอคิดเข้าข้างตัวเองว่า มันคงรู้ว่าเราเป็นเพื่อนกับปุ๊ก มันเลยต้องเรียกพี่เหมือนกัน เลยสบายใจขึ้นหน่อย (ตอนหลังปุ๊กเฉลยว่ามันเป็นน้องของนิ้ง - EC แต่ขอโทษเหอะ แต่งตัวแก่ยังกับผู้ช่วยผู้ว่า เฮ้อ…) คณะนี้เขากินกันเป็นกิจลักษณะมาก เพราะขนอุปกรณ์ทำอาหารและอาหารสดไปกันเยอะมาก จนเราสงสัยว่าที่เห็นๆ กันอยู่ตอนนี้แค่ ๖ คน จริงๆ คงมีคนรออยู่ที่เขาใหญ่อีก ๒๐ คน หรือไม่ก็คงจะอยู่กัน ๗ วัน ๗ คืน ละมั๊ง แต่ปุ๊กบอกว่า คราวที่แล้ว เอาไปเท่านี้ก็กินหมด ฮ้า…
แล้วชาวคณะก็เริ่มกินอย่างเอาจริงเอาจังที่ร้านอาหารแถวๆ ตีนเขาใหญ่ เป็นร้างแบบเพิงใหญ่ๆ รสชาดดีมาก เสียแต่หากาแฟกินไม่ได้เอาเสียเลย จนเรามึนหัวไปครึ่งวัน เดชะบุญที่ได้ร้านกาแฟสดระหว่างทางขึ้นเขาใหญ่มาช่วยเหลือ ร้านนี้เหมือนคนแถวนั้นผนวกกิจการที่พักแบบ Home Stay เข้ากับร้านกาแฟ เราเลยเข้าไปดูห้องพักเผื่อเพื่อนหมู (ที่หมูจะโดยสารรถเขามาด้วย) แต่ไม่ผ่านอ่ะ กินกาแฟเสร็จ ก็ได้ฤกษ์ขึ้นเขาใหญ่ เพื่อนปุ๊กจองบ้านเก่งมาก ได้บ้าน รมต. ซะด้วย เป็นแบบ ๓ ห้องนอน มีห้องรับแขกและห้องครัว แถมระเบียงใหญ่มาก แถมบ้านก็ดูสะอาดสะอ้าน (เรายังแหยงๆ บ้านพักกรมป่าไม้ที่ดอยอินทนนท์อยู่) ที่เด็ด คือ มีกวางมายืนแถวหน้าบ้านด้วย เขาสวยเชียว เรางี้กี๊บก๊าบใหญ่จนพี่อ๊อบแกทำหน้าสงสัยว่า อะไรจะตื่นเต้นขนาดนั้น เลยต้องรีบสงบสติ และก่อนที่จะย้วยกันไปมากกว่านี้ ก็รีบเคลื่อนขบวนไปดูบอลลูนกัน
รถเต็มลานเลย แต่บอลลูนน้อยโคตร มี ๕-๖ ลูกเองละมั๊ง ไม่เห็นจะเป็นเทศกาลบอลลูนตรงไหน มารู้ทีหลังว่าเขาปล่อยบอลลูนไป ๑ ชม. ก่อนที่พวกเราจะมาถึงกัน แต่วันนึงจะปล่อย ๒ รอบ รอบต่อไป คือ ๖ โมงเช้าของวันถัดมา เรารีบบอกให้ปุ๊กเหยียบไว้ เพราะเดี๋ยวหมูรู้เข้า เราจะต้องโดนมันอ้อนให้มาแน่นอน และระหว่างที่หมูยังมาไม่ถึง พวกเราก็กินของรอ กว่าหมูจะมาก็อิ่มพอดี แต่คณะนี้เขาเก่งกันมาก เพราะพอกลับมาที่บ้านพัก เขาก็ปิ้งบาร์บีคิวกินกันต่อ กิน, กิน และกินจริงๆ แต่เราหนีไปนอนก่อน เพราะวันนี้ตื่นเช้าไปแล้ว…
1 comment:
แล้วตกลงหมูไปรู้ตอนไหนล่ะ เรื่องปล่อยบอลลูนอ่ะ
ปล. ย้วยแปลว่าอะไรอ่ะ
Post a Comment