เพราะปุ๊กบอกว่าขับจาก Hobart ไป Strahan ประมาณ ๓๕๐ กม. พวกเราเลยย่ามใจ แวะเที่ยวกันใหญ่ พอแวะซื้อเสบียงที่ Supermarket แล้ว ระหว่างทางผ่านฟาร์มสวยๆ ป้าๆ ก็แวะลงไปถ่ายรูป ขับผ่านทุ่งหญ้าเลี้ยงวัว ก็แวะถ่ายรูป แล้วก็กลัวว่าจะไปถึง Strahan เร็วกว่าที่คิด เราเลยเสนอให้ขับอ้อมไป Mt. Field ซึ่งเป็น National Park ระหว่างทาง
การเข้า National Park ของที่นี้ จะมีการเก็บค่าเข้าทีละ ๒๒ เหรียญ แต่คุณป้า จนท. บอกว่า มีแบบเหมาจ่าย เข้ากี่ Park ก็ได้ในเวลาที่เราอยู่ เสียแค่ ๖๑ เหรียญ แต่สูงสุดอยู่ได้ไม่เกิน ๑ เดือน เลยตกลงซื้อแบบนี้ ซึ่งคุณป้าก็เอาบัตรเข้าอุทยานฯ ให้ ๒ บัตร บัตรนึงเอาไว้ติดที่กระจกรถ อักอันนึงเก็บไว้กับตัว เป็นบัตรยาวๆ เอาไว้สแตมป์ตาม National Park ที่เราจะไปเที่ยวกัน ว่าแล้วเราก็หยิบตรา Mt. Field มาสแตมป์ แต่พอเหลือบไปเห็นว่ามีที่สแตมป์อีกอันของ Hazte National Park เราก็หยิบมากะสะสมตราสแตมป์ คุณป้าหันมาถามว่า เราไปมาแล้วเหรอ พอตอบว่า ยัง คุณป้าก็เก็บตราสตมป์นั้นไป อ้าว คุณป้า หนูไม่ได้จะโกงนะคะ แค่อยากจะสะสมตราสแตมป์เท่านั้น อะไรจะเคร่งครัดขนาดนี้เนี่ย…
การเข้า National Park ของที่นี้ จะมีการเก็บค่าเข้าทีละ ๒๒ เหรียญ แต่คุณป้า จนท. บอกว่า มีแบบเหมาจ่าย เข้ากี่ Park ก็ได้ในเวลาที่เราอยู่ เสียแค่ ๖๑ เหรียญ แต่สูงสุดอยู่ได้ไม่เกิน ๑ เดือน เลยตกลงซื้อแบบนี้ ซึ่งคุณป้าก็เอาบัตรเข้าอุทยานฯ ให้ ๒ บัตร บัตรนึงเอาไว้ติดที่กระจกรถ อักอันนึงเก็บไว้กับตัว เป็นบัตรยาวๆ เอาไว้สแตมป์ตาม National Park ที่เราจะไปเที่ยวกัน ว่าแล้วเราก็หยิบตรา Mt. Field มาสแตมป์ แต่พอเหลือบไปเห็นว่ามีที่สแตมป์อีกอันของ Hazte National Park เราก็หยิบมากะสะสมตราสแตมป์ คุณป้าหันมาถามว่า เราไปมาแล้วเหรอ พอตอบว่า ยัง คุณป้าก็เก็บตราสตมป์นั้นไป อ้าว คุณป้า หนูไม่ได้จะโกงนะคะ แค่อยากจะสะสมตราสแตมป์เท่านั้น อะไรจะเคร่งครัดขนาดนี้เนี่ย…
ว่าแล้วก็ได้เวลาเดินไปดูน้ำตก สถานที่ท่องเที่ยวที่นี่ดีมาก ให้ข้อมูลครบถ้วน พวกเราเลยเลือกเดินแบบรูทสั้น เพราะแม่จะได้เดินได้ด้วย ระหว่างทางเดิน เฟิร์นกับมอสเยอะมาก ต้นไม้ก็สูงใหญ่เอามาก ให้ความรู้สึกอเมซอนสุดๆ แม่หยุดที่น้ำตกชั้น ๑ พี่รัตน์ตกลงจะเดินกลับเป็นเพื่อนแม่ เรากับปุ๊กเลยเดินต่ออีกนิดนึง แล้วก็วนกลับ
ออกจาก Mt. Field ก็แวะหาข้าวเที่ยงกิน ตอนแรกพวกเรากะกินข้าวกันใน Rest Area ระหว่างทาง แต่ก็โดนป้ายหลอก เพราะ Rest Area ที่พวกเราแวะ มันปิดไปแล้ว แม่โว๊ย อุตส่าห์ขับเข้ามาตั้งไกล สุดท้ายเลยได้แวะกินที่ร้านในโรงแรมแถวนั้น ดูหรูดี ห้องน้ำก็ห๊อม หอม เลยกิ๊บก๊าบกันใหญ่ แล้วก็แวะเที่ยวต่อที่ Lake St. Clair ซึ่งในโบชัวร์เขียนว่า สวยมาก แต่บังเอิญว่าตอนพวกเราไปฝนตกหน่อยๆ เลยไม่ค่อยสวย น้ำไม่เป็นสีฟ้าสวยเหมือนในรูป เลยเดินแค่แป๊ปนึง แต่หนักไปทางช้อปปิ้งแทน เพราะปุ๊กสนใจจะซื้อเสื้อหนาวซะมากกว่า เป็นงัยไป…
เผลอตัวอีกมีก็จะ ๕ โมงเย็นแล้ว ได้เวลาไป Strahan กัน ซึ่งเหลือระยะทางอีก ๑๐๐ กม. คราวนี้เปลี่ยนเป็นเราขับบ้าง ตอนแรกนึกว่าจะขับแค่ ชม. นิดๅ แต่ที่ไหนได้ ซัดไป ๒ ชม. กว่า เพราะต้องขับบนทางโค้งไปมายังกับเส้นแม่ฮ่องสอน แถมเริ่มค่ำแล้ว ฝนตกอีกตะหาก ขับจนพระอาทิตย์ตกดินไปเป็น ชม. แล้วก็ยังไม่ถึงซะที ดีที่ถนนเขาทำป้ายสะท้อนไฟตลอดเส้นทาง เลยช่วยเราได้มาก แต่ก็ยังมุขกันตลอดทาง (แก้กลุ้มใจ) กว่าจะถึง Strahan ก็ปาเข้าไปเกือบ ๒ ทุ่ม กินข้าวเย็นเสร็จ ก็สลบเข้านอนทันที
No comments:
Post a Comment