Sunday, December 17, 2006

ฮ่องกงวันที่ ๑


รีบตื่นไปบ้านญาติพี่เก๋เพื่อไปเจอชาวคณะทัวร์จากยะลา แล้วก็จะได้ติดรถเขาไปสนามบินด้วย พอไปถึงพี่อ้อยก็มาเปิดประตูให้เรา แล้วตะโกนบอกฟ้าว่า "น้องฟ้าค่ะ น้าหนิงมาแล้ว" พอฟ้าออกมาเห็นเรา ก็หันไปทำหน้าดุๆ ใส่พี่อ้อยว่า "เขาชื่ออาอี๋ ไม่ได้ชื่อน้าหนิง!" อะ! งานนี้เลยได้ล้อกันอีกพักนึง

พวกเราไปถึงสนามบินค่อนข้างเร็ว อาจจะเป็นเพรามันเป็นเช้าวันอาทิตย์ เราก็เล่นกับมุกไปเรื่อยๆ รู้สึกว่ามุกดูน่ารักขึ้น (อันนี้คิดถึงที่เก๋บอกว่า ไอโกะเปี๊ยนไป๋ เราว่า มุกก็เปี๊ยนไป๋ ^_^) แต่เนื่องจากคนเยอะมาก คงเป็นเพราะมันเป็นช่วงฮ่องกงอากาศดีด้วยละมั๊ง นักท่องเที่ยวเลยเยอะสุดๆ เราเลยให้ครอบครัวแจ้เช็คอินก่อน เพราะต้องพาเด็กๆ เข้าไปกินอะไรรองท้องก่อนขึ้นเครื่องด้วย (ไฟล์ทบ่ายโมง) ส่วนเรารอหญิงมาแล้วค่อยเช็คอินพร้อมหญิง พอตอนเราเช็คอิน เราก็พึ่งสังเกตว่ามีใบ immigration วางอยู่ตรงใกล้ๆ เคาท์เตอร์เช็คอิน เลยนึกขึ้นมาได้ว่า ต้องกรอกใบนี้ด้วย (นานๆ จะไปเมืองนอกกับเขาซะที ป้าเลยลืมไปเลย) แล้วตะกี้แจ้ไม่ได้กรอกซะด้วย เลยรีบโทรบอกทั้งแจ้และพี่เก๋ แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เลยให้นึกในใจว่า อย่างนี้ต้องติดกันเป็นตังเมเลยนะเนี่ย แต่ถ้าจำเป็นเราก็ยกมือถือเราให้แจ้ละกัน เพราะเราอยู่กับหญิงตลอด เอาไว้ขอหญิงใช้ถ้าจำเป็นต้องติดต่อกัน anyway ก็หวังว่าแจ้จะนึกเรื่องใบ immigration นี้ขึ้นได้ก่อนนะ ไม่งั้นต้องไปยืนกรอกหน้าเคาเตอร์ให้ชาวบ้านยืนบ่นในใจต้อนรับการเริ่มเดินทางเลยเชียว…

พอเข้าไปแล้ว ก็มี message มาเรียกเราไปกินข้าว เบอร์ใครก็ไม่รู้ แต่ก็น่าจะเป็นของแจ้แหละ เลยบ่นในใจว่ามีอีกเบอร์ก็ไม่บอกเรา พอไปถึงร้านอาหาร ปรากฎว่าเป็นอีกเบอร์ของพี่เก๋ เขาบอกเบอร์นี้ถึงจะเปิดโรมมิ่ง เลยโล่งอก มีทางติดต่อกันได้หล่ะ

ไฟล์ทเต็มเอียด คณะเราเลยนั่งแยกเป็นคู่ๆ แถมยังไม่ได้ที่นั่งติดหน้าต่างเลยซักคน (พี่เก๋อยากได้มาก คงอยากให้ฟ้าดูวิวละมั๊ง) คราวนี้เราบินอิมิเรสต์ เลยมีทีวีส่วนตัวให้ดูเพลินๆ หันไปอีกที หญิงหลับไปแล้ว ซักพักมุกก็หลับตามน้าหญิงไป เลยไม่ได้กินข้าวที่ทางสายการบินเตรียมแบบของเด็กมาให้ (เป็นกล่องพลาสติกสีฟ้าน่ารัก) ส่วนฟ้าดูการ์ตูนไปตลอดทาง นี่มันติดการ์ตูนเอาจริงๆ จังๆ เลยนะเนี่ย…

พอถึงก็เป็นไปตามคาดว่า รถบัสที่ตระเวณส่งคณะทัวร์คนไทย จะส่งคณะเราเป็นคณะสุดท้าย กว่าจะเช็คอิน และไปกินข้าวก็เกือบ ๓ ทุ่ม พวกเราหิวกันมาก เดินหาร้านที่โรงแรมบอกไม่เจอ แต่ดันมาเจอร้านอะไรก็ไม่รู้ ท่าทางหรู แถมกำลังจัดงานเลี้ยงแต่งงานอยู่ซะด้วย แต่ทางร้านยอมให้พวกเรากิน เลยต้องรีบพุ่งเข้าไป พี่เก๋อ่านเมนูนานมาก ยึกยักไปมาอยู่นั่น ไม่หิวรึงัยวะ แต่เด็กๆ ไม่หิว เราเห็นไม่ได้การเลยจัดการสั่งแทนเลย มื้อนี้กินไปไม่เท่าไร แค่ ๖๙๕ เหรียญ โห… แทบเป็นลม นี่ขนาดสั่งแบบเกรงใจแล้วนะ แต่ก็เอาเหอะ ก่อนที่อิชั้นจะหลายร่างเป็นกล่องข้าวน้อยฆ่าพี่เขย มื้อหน้าต้องหาร้านหน่อยแล้ว เราเลยบอกแจ้ว่า เอาไว้จะถามดิว แก้ตัวละกันนะ แต่หญิงบอกว่า อย่างดิวคงพึ่งอาหารในแนวนี้ไม่ได้หรอก ฮ้า… ขากลับโรงแรม อากาศเริ่มเย็น ใส่แจ๊คเก็ตก็ยังเย็นๆ นิดหน่อย แหม… เย็นได้ใจจริงๆ ค่อยได้อารมณ์มาต่างประเทศหน่อย แต่ฟ้าบ่นว่า "โอ๊ย หนาวหน้า" 555 ท่ามันจะไม่ชอบฮ่องกงเท่าไหร่แฮะ

กลับถึงโรงแรม ๔ ทุ่มนิดๆ เลยรีบโทรหาดิวว่าวันนี้ไปหาไม่ได้แล้ว จะเปลี่ยนเป็นวันไหนดี แต่ปรากฎว่าดิวต้องไปทำงานที่เมืองจีนพรุ่งนี้ ไป ๓ วันรวด เลยอดเจอกัน เราเลยตั้งปฏิธานว่า จะต้องมาฮ่องกงอีกรอบ ยังงัยก็ต้องไปบ้านดิวให้ได้ (นี่ ๒ รอบ แล้วนะ ที่ไม่ได้ไป) หญิงเลยถามดิวว่า พรุ่งนี้จะไปกินข้าวเช้าได้ที่ไหน ดิวตอบว่า "สตาร์บัคส์" หญิงเลยหันมาหัวเราะคิกคักประมาณว่า ชั้นว่าแล้ว เห็นไม๊ล่ะ anyway ดิวบอกว่า คริสต์มาสจะไปเมืองไทย เอาไว้เจอกันที่โน่นละกัน เราเลยนึกในใจ นี่อิชั้นต้องบินทุกอาทิตย์รึงัยนะ แต่ก็ดีเหมือนกันเพราะจะได้ถือโอกาสมางานปีใหม่เพื่อนเตรียมฯ ด้วย

โรงแรมที่พักครั้งนี้เป็นแบบ ๕ ดาว ชื่อ Marcopolo Hongkong (ที่ต้องระบุว่า Hongkong เพราะ Marcopolo มีหลายอัน แถมตั้งอยู่ใกล้ๆ กันด้วย อันนี้เหมือนจะเป็นอันแรก เลยดูหรูหราน้อยกว่าอันอื่นๆ เขา) โรงแรมตั้งอยู่กลาง Tism Sa Shui ใกล้ๆ กับท่าเรือ วิวดีมากๆ แต่น่าเสียดายที่พวกเราไม่ได้ห้องวิวนั้น แถมปีกที่เราพักก็กำลังปรับปรุง ในห้องพักเราเลยมีตุ๊กตาหมีตัวเล็กๆ วางไว้เขียนว่า "Bear with us" เออ เข้าใจเล่นคำดี (แต่ตอนแรกเรากับหญิงดีใจกันใหญ่ที่โรงแรมแจกตุ๊กตาหมี ป้าจริงๆ เลย -_-") ส่วนห้องพักก็กว้างขวางพอสมควร (ดีกว่าโรงแรมที่พักคราวที่แล้วมาก) แต่ดันไม่มีน้ำเปล่าให้ มีแต่ชากับกาแฟ เฮ้อ… ดีที่เราเหลือน้ำในขวดที่คว้ามาจากร้านอาหารหน่อยนึง เลยเอามากินกันตาย ไม่ต้องต้มน้ำให้วุ่นวาย


3 comments:

Anonymous said...

"หันไปอีกที หญิงหลับไปแล้ว" >>> เธอหลับเก่งมาก โดยเฉพาะขณะเดินทาง

"รถบัสที่ตระเวณส่งคณะทัวร์คนไทย จะส่งคณะเราเป็นคณะสุดท้าย" >>> ทำไมมันเป็นงี้ทุกทีเลยวะ ชั้นขอสรุปว่าหญิงซวย เพราะ หญิงเป็น intersect ของเรา 2 คน ในการไปฮ่องกง

"สตาร์บัคส์" >>> 555 รู้สึกว่าพวกเราจะรู้จักกันดีไปหน่อยแล้วนะ

me! said...

เคยอ่านที่ไหนซักแห่ง (คาดว่าจะเป็นในมติชนสุดสัปดาห์ ไม่หนุ่มเมืองจันทน์ ก็ พิษณุ นิลกลัด) เขียนว่ามีโรงแรมในฮ่องกงโรงแรมหนึ่งแจกหมีให้แขกที่มาพัก เป็นหมีช่าง (หรือมีวิศวกร) มีอุปกรณ์มากับหมีด้วย แขกชอบกันมากๆ ไม่แน่ใจว่าใช่ Marcopolo หรือเปล่า

Anonymous said...

แล้วจะบอกหญิงให้นะ ; D