Wednesday, December 20, 2006

น้าหงิญ - ฮ่องกงวันที่ ๔



เช้าเรากับหญิงก็ไปถ่ายรูปรอบๆ โรงแรมกัน ทุกอย่างเป็นทรง Micky Mouse หมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่าง, พนักเก้าอี้, มือจับ ไม่เว้นแม้แต่ขนมปังกรอบในชามสลัด ยกเว้นสระว่ายน้ำที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมธรรมดา ซึ่งหญิงเม้าท์ว่า ไม่น่าหลุดธีมได้ เราทุกคนแพ็คกระเป๋าเรียบร้อยเอาลงมาข้างล่าง โดยไม่ต้องไปคิว Check Out พนักงานบอกว่า ถ้าคืนห้องก่อน ๑๑ โมง จะเป็นการ Check Out แบบอัตโนมัติเลย แล้วก็ไป Nong Ping กัน

Nong Ping เป็นที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ เป็นแนวชมธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปโดยนั่งรถกระเช้าไฟฟ้า ประมาณ ๔๕ นาที แล้วไปดูวัดจีน กับ Chinese Village ที่พึ่งจะสร้างขึ้น มีร้านขายของทีระลึกตลอดทาง แจ้กับพี่เก๋เลยไปเดินช้อปเหมือนเคย (ไหนบอกว่า กะมาเที่ยวอย่างเดียว ไม่ช้อปวะ) ส่วนเรากับหญิงก็กินไอติรออยู่กับมุกกับฟ้า คราวนี้มุกยอมให้หญิงป้อนไอติมแล้ว ก่อนให้กินไอติมเราเลยถือโอกาสให้มุกเรียก "น้าหญิง" เพราะ ๓ วันที่ผ่านมา มุกเรียกหญิงว่า "เพื่อนอาอี๋" ตลอด โดยขู่ว่าถ้าไม่เรียก "น้าหญิง" เราจะไม่ให้กินไอติม ปรากฎว่ามุกทำท่าพยายามออกเสียงมาก สุดท้ายก็พูดว่า "น้า…หงิญ" พร้อมทำท่าโล่งอกที่พูดได้ในที่สุด เราถึงถึงบางอ้อว่าที่มุกไม่ยอมเรียก "น้าหญิง" เพราะมุกออกเสียง "หญิง" ไม่ได้นี่เอง 555 พอขากลับซึ่งสามารถเดินกลับลงมาได้ เป็นแนว Trekking ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาหลาย ชม. แต่เนื่องจากคณะเรามีแต่เด็กเล็กและคนแก่ -_-" เลยตกลงเลือกนั่งกระเช้าทั้งไปและกลับ

และเนื่องจากชาวคณะยังช้อปกันอย่างไม่หนำใจ เพราะยังไม่ได้เข้า Giodano กับ Bossini เลยต้องเข้าเมืองกันอีกรอบ และถือโอกาสมากินติ่มซำร้านเดิมอีก พี่เก๋เลยถือโอกาสเลี้ยงเรากับหญิงที่ช่วยมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก (หารู้ไม่ว่าแจ้ออกตังค์ค่าเครื่องตั๋วเครื่องบินให้เรามา หุหุหุ…) แล้วก็ไปช้อปประจายกันต่อ จนเกือบ ๖ โมง แล้วถึงได้ไปกลับไปโรงแรมเพื่อรอรถมารับไปสนามบิน

ถึงสนามบิน เรากับหญิงก็ซื้อขนม Maxim กันตามระเบียบ แต่พอเข้าไปใน Duty Free แจ้ก็จะซื้อเครื่องสำอางอีก หญิงเลยเดินไปก่อน เพราะจะไปดูของอย่างอื่น เราก็รอแจ้อยู่หน้าร้าน เพราะกลัวมุกจะทำของในร้านแตก รออยู่พักนึง พี่เก๋ก็เดินมาบอกให้เรา "พาน้องมุกไปก่อน" เราก็เลยเข็นมุกไปที่ Gate ปรากฎว่า Gate ดันอยู่ไกลโคตรๆ เราก็ลังเลอยู่แป๊ปนึงว่าจะพามุกไปถึงโดยที่มันจะไม่งอแงได้ไม๊เนี่ย แต่พอลองแย็บๆ ถามดู มุกก็บอกว่า "มุกไปได้" เราเลยพามุกขึ้นรถไฟไป แล้วก็เปลี่ยนลิฟต์อีก ๒ รอบ กับเดินบันไดเลื่อนอีก ๕ สายพาน ก็ถึง Gate พอดี จนเครื่องใกล้ออก พี่เก๋ก็โทรมาบอกให้เราพามุกไปที่ Gate เลย เราก็งงๆ แต่ก็ตอบไปว่า ตอนนี้หนิงกับมุกอยู่หน้า Gate แล้ว และหนิงกรอกฟอร์มเอารถเข็นขึ้นเครื่องเสร็จแล้วด้วย พอแจ้มาถึงก็บอกว่า ที่มาช้าเพราะมัวแต่หาเรากับมุก เพราะเห็นว่า Gate อยู่ไกลมาก แถมต้องเปลี่ยนรถไฟอีก กลัวเราจะไม่กล้าพามุกมา ส่วนพี่เก๋บอกว่า "พามุกไปก่อน" หมายถึง "พามุกไปเดินเล่นที่อื่นก่อน" อ้าว! Anyway เราก็พามุกมาจนได้ เราเลยบอกว่า จริงๆ น้องมุกเก่งมากนะ เพราะตลอด ๔ วัน มุกพูดง่าย ไม่มีงอแงเลย ผิดกับฟ้าที่ต่อมน้ำตาแตกไป ๓ รอบ แล้วให้มุกทำอะไรก็ทำ ให้กินอะไรก็ไม่มีปัญหาทั้งสิ้น เอาไว้เราจะมาเที่ยวกับมุกอีก เพราะสนุกมากๆ (ว่าแล้วอย่างมีลูกสาวสุดๆ)

ไฟล์ทเต็มเอียดเหมือนขามา แถมยังมีแขกขนของกลับประเทศกันกระเป๋าใหญ่ยักษ์อีกตะหาก (เห็นบอกว่าไปขนซื้อกันมาจากเมืองจีน ขนกันเยอะขนาดนี้เครื่องจะ overload ไม๊วะ) เครื่องมาถึงเกือบเที่ยงคืน เราก็ไปถามหารถเข็นเด็ก พนักงานบอกว่า ให้รอที่สายพานก่อน ถ้าไม่ได้ค่อยมาติดต่ออีกครั้ง เพราะเอาแน่ไม่ได้ บางทีรถก็มากับสายพาน บางทีก็ให้พนักงานเอามาให้ เลยโดนพวกเราบ่นถึงความแย่ของสุวรรณภูมิกันอีกรอบ (ผิดกับฮ่องกง ที่เขาเอารถเข็นมาให้เราเลยถึงที่เลย) และแล้วรถเข็นก็มาทางสายพาน กว่าจะกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพก็เกือบ ตี ๒ เป็นอันว่าจบทัวร์ฮ่องกงแต่เพียงเท่านี้

3 comments:

Anonymous said...

ว่าแล้วอย่างมีลูกสาวสุดๆ >>> -_-"

me! said...

^
^
-_-" เพราะเขียนผิดหรือเปล่า

Anonymous said...

อยากมีลูกจริงๆ นะ ; )