Tuesday, January 16, 2007

ใครว่าชีวิตเป็นของเรา

ในที่สุดบริษัทฯ ก็ได้โปรเจคสุโขทัย พี่ณัฐโทรมาบอกให้เราเตรียมแพคของมาทำงานกรุงเทพฯ ในวันที่ ๑ กุมภา เราฟังแล้วจ๋อยๆ แบบว่า เราไม่อยากไปทำงานกรุงเทพฯ หนิ ก็เราเริ่มปรับตัวกับที่นี้ได้แล้ว (เริ่มคุยกับฝรั่งในออฟฟิสกับเขาบ้างแล้ว) งานก็น้อยโคตรๆ และที่สำคัญเราไม่อยากแพคของอีกแล้ว เรากะว่าเราจะย้ายของอีกแค่รอบเดียวในชีวิตเท่านั้น คือ ตอนเราลาออกแล้วย้ายกลับไปอยู่ยะลานี่แหละ แต่เราก็ไม่รู้จะพูดกับพี่ณัฐยังงัย เพราะเราก็เกรงใจพี่ณัฐว่าเราจะส่งเขาขึ้นฝั่งตามความตั้งใจเดิมที่ลาออกจาก TCC แล้วมาทำงานกับพี่ณัฐไม่ได้เสียแล้ว เราไม่อยากเปลี่ยนแปลงชีวิตเราในตอนนี้แล้ว ขอเปลี่ยนอีกแค่ครั้งเดียวตอนปลายปีเท่านั้น เราเลยโทรไปปรึกษาเกี๊ยก แต่โดนแซวว่า คิดว่าเราจะโทรมาบอกให้ไปรับที่ท่ารถซะอีก อ้าว! นี่เราโทรหาเกี๊ยกทีไรเป็นเรื่องนี้ทุกครั้งเลยรึนี่ เราเลยได้ทีมุขไปเลยว่า "งั้นหนิงจะโทรมาบ่อยๆ ก็แล้วกันนะ" ซึ่งคำปรึกษาของเกี๊ยกก็เป็นไปอย่างทีเราคิด คือ จะทำงานที่ไหนก็แล้วแต่เรา ขอให้เรามีความสุขในที่ๆ จะทำก็พอ ซึ่งถ้าเอาความคิดแบบนั้นมาเป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจ เราก็ต้องมาทำงานกรุงเทพฯ นะซิ เพราะเราจะได้ไม่รู้สึกผิดกับพี่ณัฐ แต่เราคง "ไถนา" เหนื่อยโคตร เพราะได้ข่าวว่า Owner สั่งให้ทำโอถึงตี ๒ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะคิดว่า Owner คงจะอยากเร่ง Sale Office ให้เสร็จก่อนสงกรานต์ให้ได้ แล้วเลยให้นึกถึงที่พี่เอเคยสอนว่า "เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด" เฮ้อ… พี่เอนี่พูดถูกเสมอเลยแฮะ…

No comments: