Friday, February 15, 2008

เดินทาง

Flight ออกเที่ยงคืนครึ่ง เราเลยบ้าระห่ำทำงานถึง ๓ ทุ่ม แต่ก็ยังไม่เสร็จ ต้องหอบ Minutes ไปทำต่อที่โน่นจนได้ พอไปถึงสนามบินด้วยรถลีโมซีนฟรีอย่างสะดวกสบาย-น่าติดใจ (กว่าจะได้ ต้องไปต่อรองกับ Citibank แทบแย่) ปรากฎว่าการบินไทยฮิตมาก กว่าเราจะหาซื้อที่คาดกระเป๋าสำเร็จ (ตามที่ป้าปุ๊ก - เจ้าของกระเป๋าขู่ไว้ ที่ให้เรายืมกระเป๋าใบใหญ่ เพราะเราต้องหอบของไปให้เจ้าของบ้านเยอะมากกกกกกกก) กว่าจะได้เช็คอิน + ฝ่าด่า Immigration (พึ่งจะรู้ว่า เดี๋ยวนี้เวลาไปต่างประเทศไม่ต้องซื้อภาษีสนามบินแล้ว ซึ่งมันก็ควรจะเป็นอย่างนั้นตั้งนานแล้วนะ ควรจะรวมในค่าตั๋วให้เรียบร้อยไปเลย เพราะยังงัยมันก็ต้องจ่าย แต่อิชั้นก็เสียเวลาไปอีก ๑๐ นาทีในการหาตู้ซื้อและสอบถามพนักงานแถวนั้น กว่าจะรู้เรื่อง เฮ้อ… ป้าจริงๆ เลย) ก็เหลือเวลาขึ้นเครื่องแค่ครึ่ง ชม. เลยต้องช้อปโดยความเร็วสูงสุด พอเหลือเวลาอีก ๑๕ นาที เราก็วิ่งหน้าเริ่ดจะไปขึ้นเครื่อง ปรากฎว่าเจอคิวสแกนด่านสุดท้ายอีกยาวววววววววววว เฮ้ย มันมีด่านนี้อีกเหรอวะ กำลังเลิ่กลักอยู่ก็ได้ยินพนักงานตะโกนเป็นภาษาไทยว่ามีช่องเปิดเพิ่มที่ชั้นล่าง เราเลยรีบวิ่งลงบันไดไปโดยมีฝรั่งอีกฝูงนึงเดินตามมา เราเลยได้คิวสแกนเป็นคนแรก แล้วก็วิ่งหน้าเริ่ดไปที่ Gate พลางนึกในใจนี่ตรูจะต้องตาลีตาเหลือกไปถึงไหนเนี่ย พอวิ่งไปใกล้ๆ ก็เห็นป้ายกระพริบคำว่า "Final Call" คราวนี้วิ่งเป็นร้อยเมตรหญิงเลย และอิชั้นก็เป็นผู้โดยสารคนสุดท้ายอีกแล้วครับทั่น พอนั่งลงหายหอบ กัปตันก็ประกาศด้วยเสียงเซ็งๆ ว่า "เนื่องจากเก้าอี้เสีย เครื่องจะเลื่อนเวลาออกไปอีก ๓๐ นาที ขออภัยในความไม่สะดวกครับ" เฮ้ย… ทำงี้ได้งัยวะ วิ่งมาแทบแย่… โห… เซ็งอ่ะเซ็ง…

เราได้นั่งกลางระหว่างฝรั่งชาย ๒ คน คนข้างซ้ายดูแล้วรุ่นใกล้เคียงกับเรา แต่คุณพี่หลับเอาเป็นเอาตาย ไม่รู้ไปอดนอนมาจากไหน คนข้างขวาเป็นลุงแก่ๆ มากับเมีย (แหม… เซ็งเลย นึกว่าจะได้นั่งข้างน้องเคน เพราะได้ข่าวว่าไปเที่ยวยุโรปช่วงนี้พอดีเหมือนกัน) แต่คุณลุงน่ารักมาก เห็นเราไม่หลับซะที เลยบอกเคล็ดลับการหลับบนเครื่องกับเราว่า ให้ตั้งเวลาไปเป็นเวลาอังกฤษ ซึ่งมันก็จะเป็นหัวค่ำ เราจะได้รู้สึกว่า โอ้… ใกล้เวลาเข้านอนแล้ว แล้วเราก็จะรู้สึกง่วงไปเอง เราฟังแล้วก็ยิ้มๆ เอ่อ ตอนนี้ก็ตี ๓ แล้ว ไม่ต้องใช้เวลาอังกฤษก็ได้ค่ะ แต่ที่หนูไม่หลับซะที คิดว่าเป็นเพราะมันแฮงค์ไปแล้วตะหาก และเพราะไม่หลับกันทั้งคู่ เลยพากันดูเรื่อง Elizabeth ที่การบินไทยเอามาฉาย เราเลยถามคุณลุงว่า มันมีความเป็นจริงอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ คุณลุงหันมาทำหน้าเบื่อๆ ตอบว่า "คงซัก ๑๐ อย่างมาก ๒๐" คุณป้าเลยหันมาตบผลั๊วะ แล้วบอกว่า "๕๐-๕๐ จ๊ะ" กว่าหนังจะจบก็ปาเข้าไปตี ๔ กว่า คราวนี้เราหลับป๊อกเลย…

5 comments:

Anonymous said...

"แต่คุณพี่หลับเอาเป็นเอาตาย ไม่รู้ไปอดนอนมาจากไหน" >>> มันแกล้งหลับ ชั้นว่า

ning_nee said...

>: ( เฮอะ

moouan said...

พี่ มันไม่เก็บภาษีเพราะเป็นสนามบินใหม่มิใช่เหรอ

me! said...

พี่ มันไม่เก็บภาษีเพราะเป็นสนามบินใหม่มิใช่เหรอ >> คราวที่แล้วเราไปอเมริกาก็เสียภาษีสนามบินนะ

พี่หนิง... เครื่องบินดีเลย์แล้วเราต้องรอ ดีกว่าตกเครื่องบินนะ ขอบอก (นิจเคยตกแล้ว ยืนยันได้ :P)

Anonymous said...

ไม่มีภาษีสนามบินแล้ว รวมในค่าตั๋วเลย