Friday, February 22, 2008

London - Day VII






เราชั่งใจว่าระหว่างไปช้อปปิ้งที่ Outlet ที่ Bicester Village กับไปพระราชวังวินเซอร์ และไป Hampton Court Palace เราจะไปอันไหนดี อันแรกนี่ตัดออกได้ก่อน เพราะถ้าไปช้อปซะหมดตัว แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปทัสมาเนียวะ ยิ่งในหนังสือเรียก Outlet นี่ว่า "หมู่บ้านละลายทรัพย์" ด้วยแล้ว (ฟังดูน่ากลัวยิ่งว่าซอยละลายทรัพย์อีก นี่เล่นเป็นหมู่บ้านเลยเชียว...) อย่าไปดีกว่า เลยต้องมานั่งชั่งใจระหว่าง ๒ พระราชวัง สุดท้ายก็เลือกไป Hampton Court Palace เพราะในหนังสือบอกว่า พระราชวังนี้สวนสวย ในขณะที่พระราชวังวินเซอร์จะเน้นเรื่องเครื่องเรือน-ข้าวของเครื่องใช้ของกษัตริย์มากกว่า เราชอบสวนมากกว่า เลยเลือกไป Hampton Court

เริ่มจากไปขึ้นรถไฟที่ Waterloo คราวนี้เราไม่ได้เช็คเวลาแน่นอนเมื่อตอนที่ไป Stonehenge เพราะในหนังสือบอกว่า มีรถไฟออกทุก ๑๕-๓๐ นาที และนั่งไป ๔๕ นาทีก็ถึง ตอนที่เราคิวซื้อตั๋วอยู่ (ประมาณตรงกับ Platform ๒๐) เราก็เห็นว่า มีป้ายรถไฟที่จะไป Hampton Court ขึ้นแล้ว แต่ยังไม่ขึ้นเวลา และเราก็นึกในใจ ดวงดีๆ อย่างเรา ต้องได้ Platform ๑ แน่นอน และเป็นไปดังคาด พอซื้อตั๋วเสร็จ มันก็ขึ้น Platform และก็เป็น Platform ๒! และเหลือเวลาอีกไม่ถึง ๑๐ นาที เราเลยต้องสวมวิญญาณ ๑๐๐ เมตรหญิง ให้ตายเหอะ นี่อิชั้นยังต้องวิ่งไม่เลิกอีกเหรอเนี่ย พอขึ้นรถได้ นั่งยังไม่หายหอบ รถไฟก็ออก

จากสถานีรถไฟ มองไปก็เห็นพระราชวัง เดิน ๕ นาทีก็ถึง สะดวกดีจริงๆ และก็ไม่ผิดหวังที่มา เพราะเขามี Walky-Talky ให้ด้วย เลยเดินดูห้องต่างๆ อย่างสนุก แถมเขายังเล่าซะเห็นภาพ จนเราเกือบเผลอเข้าไปคุกเข่าและจูบมือพระราชาตามที่เขาบรรยายซะแล้ว เคลิ้มดีจริงๆ และที่สำคัญ สวนสวยมากกกกกกก มีใบไม้ด้วย ไม่โกร๋นอย่างที่ลานน้ำพุเจ้าหญิงไดอานา เราไปเล่นสวนกลด้วย ตอนแรกคิดว่าเล็กๆ เดินแป๊ปเดียวน่าจะออกมาได้ แต่พอเดินๆ เข้าไปไม่เห็นทางออกซะที แถมเจอเด็กหน้าเดิมๆ วิ่งสวนมา ๒-๓ ที เราก็ชักใจเสีย เลยถามเด็กที่วิ่งสวนมา เขาบอกว่าเขาวิ่งเล่น อ้าว เราเลยให้เด็กช่วยพาออก พอออกมาได้ ก็รู้สึกโล่งมากๆ เลยให้สงสัยว่า นอกจากกลัวความสูงแล้ว เรายังกลัวที่แคบๆ อีกด้วยรึเนี่ย แล้วก็เดินชมสวนอีกด้านนึงก่อนกลับ สรุปว่า เราให้ ๕ ดาวเลยสำหรับ Hampton Court Palace

เราลุ้นมากว่าจะกลับมาถึงลอนดอนให้ทันก่อนพระอาทิตย์ตก เพราะเราอยากไป Hyde Park ถึงแม้ว่ามันจะเป็นต้นไม้โกร๋นๆ ก็เหอะ (ลุ้นยังกับแสงอาทิตย์สุดท้ายในเรื่อง I Am Legend ของพี่วิล สมิธ) แต่สุดท้ายก็มาไม่ทัน ได้แต่เกาะรั้ว Hyde Park เสียดายชะมัด หวังว่าจะมีโอกาสได้มาตอนหน้าร้อนบ้าง สาธุ! แล้วเลยเดินเล่นที่ Bond Street แวะดู Clarks อีกรอบ แหมโว้ย… คาใจจริงๆ ซื้อดีไม๊เนี่ย…กลับมาบ้านคุณน้องทำผัดหมี่ซั่วโชว์ เพราะพี่นกให้เราหิ้วมา แล้วเราบอกว่า จะเอามาทำไม คุณน้องไม่ขยันทำหรอก แต่พี่นกยืนยันว่าคุณน้องจะเอา เราเลยแซวว่า ต้องทำให้กินนะ ซึ่งคุณน้องก็คุยว่า ทำอร่อยกว่า Greyhound ซะอีก น้าน… ว่าเข้าไปนั่น รอจนจะกลับ เลยได้ฤกษ์ทำโชว์ อืม… ก็อร่อยใช้ได้นะ ; )

3 comments:

me! said...

พิพิธภัณฑ์เมืองไทยสู้เมืองนอกไม่ได้ก็ตรงข้อมูลนี่แหละ เขาไม่สามารถให้ข้อมูลให้คนเข้าไปดูรู้สึกสนุกและได้ความรู้ไปพร้อมๆ กันได้ พิพิธภัณฑ์ไทยถึงได้ดู "ตายๆ" ยังไงชอบกล ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ต่างประเทศ อยู่ได้ฮึ่มๆ ใครๆ ก็อยากไป

ปล. ย้ำอีกที ไว้ไปเที่ยวด้วยกันตอนหน้าร้อนดีกว่านะ ฮ่าๆ

ning_nee said...

แปลว่า ต้องไปลอนดอนอีกรอบใช่ป่ะ ; D

Anonymous said...

อายเด็ก