พอบ่ายแจ้มาแกะกล่องของฝากที่ให้เราช่วยหิ้วกลับมา (ของคุณพี่น้ำหนักเกินจนโดนปรับ เราเลยต้องหิ้วมาให้แทน เพราะปกติเราก็ไม่ได้โหลดของอยู่แล้ว) เหวินเฉียงมันก็เข้ามามุงด้วยทันที เราเลยได้ทีแก้แค้นใช้แรงงานเด็กซะเลย เพราะหมะนั่งห่างเราไปพอสมควร แล้วอยากเห็นของ เราเลยเอาถุงพุทธาแห้งให้มันแล้วบอกว่า "เหวินเฉียงเอาไปให้ผอผอดูนะ" มันรับถุงไปแล้ว ชะงักไปนิดนึง แต่ก็พยายามกระหย่องกระแหย่งยกไปให้หมะจนได้ แล้วก็นั่งตักหมะ ไม่มาหาเราอีกเลย เราเลยพลิกถุงพุทราดูถึงได้รู้ว่า ถุงนึงหนักตั้ง ๑.๕ กก. แน่ะ มิน่าล่ะ ไอ้เหวินเฉียงเลิกเลย ๕๕๕…
ตกเย็นหมะพาเด็กๆ ไปเที่ยวสวนสาธารณะ ฟ้าให้เอารถจักรยานใหม่ขึ้นรถปิคอัพไปฉลองรถด้วย ที่สวนฯ คนเยอะมาก ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่า เรายังอยู่ในภาวะบ้านเมืองไม่สงบ เดี๋ยวนี้มีคนทำธุรกิจระบายสีตุ๊กตาปูนปาสเตอร์ด้วย มุกเลยแยกตัวไประบายสีกับแจ้ ส่วนเราวิ่งรอกไปมาระหว่าง ๒ คุณหลานสาว เดี๋ยวให้เวลาไม่เท่ากัน จะมีการน้อยใจกันได้ กำลังเล่นกันเพลินๆ ก็มีคนมาสวัสดีหมะ เราว่าหน้าคุ้นๆ แต่พอเทียนเรียกชื่อเขา เราก็จำได้เลย โห… พี่โจ้เปลี่ยนไปเยอะมากๆ เลยนะเนี่ย (เขาก็พาลูกสาวมาเที่ยวสวนฯ) พอพี่โจ้เดินเลยไป เทียนก็พูดว่า "ดีนะเนี่ยที่ตอนนั้นหมะไม่ยกแจ้ให้พี่โจ้ ไม่งั้นตอนนี้ใครๆ คงนึกว่าแจ้มาเที่ยวสวนกับพ่อ" เราฟังแล้วอึ้งไปเลย ที่เขาว่ากันว่า อย่าไปคว้าดอกไม้ปลายสวน ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง แต่เราว่า ถ้ามาขอตอนนี้ก็ไม่แน่เหมือนกันนะ เพราะผีวิญญาณแม่เราแรงมั่กๆ ฮ้า…
ขาไปมีเรานั่งท้ายปิคอัพกับฟ้า (เพราะชีเห่อจักรยาน) ขากลับเด็กน้อย 3 คน นั่งท้ายปิคอัพหมด แล้วเล่นอ้าปากกินลมสนุกกันใหญ่ โดยมีเราเป็นหัวหน้าแกงค์ แหม… ลูกทุ่งจริงๆ เลยหลานชั้น… หุหุหุ….
2 comments:
ผีวิญญาณแม่ทั้งแรงทั้งน่ากลัวมากๆ
เทียนต้องบอกว่า ดีนะ ตอนนั้นแจ้ไม่เอาพี่โจ้ ไม่งั้นตอนนี้ได้มีพ่ออีกคน
มีเด็กเล็กๆ อยู่ในครอบครัว มันสดชื่นจริงๆ นะ ; )
Post a Comment